สบส.19 มิ.ย.-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ออก 7 แนวทางป้องกันการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ในสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง ต้องคัดกรอง สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง งดกอดหอม เข้าเยี่ยมได้ครั้งละ 1คน/ ไม่เกิน 30 นาที ผู้สูงอายุเข้าใหม่ต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 แยกห้องติดตามอาการ 14 วันก่อนย้ายเข้าที่พักในพื้นที่ปกติ
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงเป็นสถานประกอบการที่มีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งช่วยเหลือตนเองได้ และ ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทำให้เสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 กรม สบส.ได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว จึงออกแนวทางการปฏิบัติสำหรับกิจการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบพักค้างคืนที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการ เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้อย่างปลอดภัย มีมาตรฐาน และควบคุมการระบาดของโรค
ด้าน ดร.สุวภรณ์ แนวจำปา ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า กรม สบส.ได้ออกแนวทางแบ่งเป็น 7 ส่วนได้แก่
1)ผู้ประกอบการ กำหนดให้มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้รับ/ผู้ให้บริการ จัดให้มีพื้นที่สำหรับเยี่ยมญาติแยกจากห้องพักผู้สูงอายุ จำกัดการเข้าเยี่ยมได้ครั้งละ 1 คน/ไม่เกิน 30 นาที จัดให้มีบริการชำระเงินที่ปลอดภัย เช่น Online Payment หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่ต้องรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก
2)ผู้ดำเนินการ ควบคุมดูแลการบริการ อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ จัดแยกอาหารเฉพาะบุคคล จัดเตรียมห้องแยกสำหรับผู้สูงอายุหลังกลับจากโรงพยาบาล
3)ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ล้างมือทุกครั้ง ระมัดระวังการสัมผัสใกล้ชิด สวมหน้ากากอนามัย และFace shield หรือแว่นตา สังเกตอาการทางสุขภาพของผู้สูงอายุ อาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันทีหลังกลับมาจากข้างนอก
4)ผู้สูงอายุ(รายเก่า) สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อมีการทำกิจกรรม/ใกล้ชิดบุคคลอื่น/เดินทางออกนอกสถานดูแล ให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและสัญญาณชีพต่างๆ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด
5)ผู้สูงอายุ(รายใหม่) ต้องมีผลตรวจโรคโควิด-19 มาแสดง ให้ความร่วมมือแยกห้องติดตามอาการ 14 วัน
6)ผู้มาติดต่อ/เข้าเยี่ยม งดกอดหอม งดการพาผู้สูงอายุออกนอกสถานประกอบการ เว้นแต่พาไปพบแพทย์ตามแผนการรักษา หากมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในระยะเวลา 14 วันก่อนหน้า ให้งดเยี่ยมเด็ดขาด
7)พนักงานทำความสะอาด ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกคลุมผม หน้ากากอนามัย ถุงมือ Face shield หรือแว่นตา ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์สิ่งของทุกครั้งหลังให้บริการ ทำความสะอาดบริเวณที่มีคนสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ทุก 2 ชั่วโมง ส่วนห้องสุขาควรทำความสะอาดทุกครั้งหลังมีการใช้บริการ กรณีห้องสุขารวมต้องทำทุก 1 ชั่วโมง เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย