“นพ.ประสิทธิ์” ย้ำหลัง 1 ต.ค. โควิดยังอยู่ แต่อาจไม่รุนแรง

รพ.ศิริราช 30 ก.ย.- “นพ.ประสิทธิ์” ย้ำโควิด หลัง 1 ต.ค.นี้ ยังอยู่แต่อาจไม่รุนแรง แจงนิวนอร์มอลไม่จำกัดแค่สวมหรือไม่สวมหน้ากากอนามัย เพราะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล พร้อมนำบทเรียนโควิดจุดประกาย แยกแยะข้อมูลกับความคิดเห็นออกจากกัน ไม่ต้องกังวลเชื้อกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ


นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 หลัง 1 ตุลาคม ว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แทบจะไม่มีการรายงานแล้ว สถานการณ์เข้าสู่ภาวะเกือบปกติแล้ว และตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่ลดลงมาจากการรับวัคซีนมากขึ้น ประกอบเชื้อโอไมครอนไม่รุนแรง เพียงแพร่เชื้อเร็วเท่านั้น คนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน เชื่อว่าจากนี้โควิดอาจกลับมาอีกครั้งแต่เป็นในปีถัดไป (ปี2566) คล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนทุกคนนำหลักการป้องกันตนเองในเหตุการณ์โควิด-19 มาปรับใช้ ในการดูแลสุขภาพของตนเอง

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ว่าในอนาคตมนุษย์เรายังคงต้องเผชิญกับโคโรนาไวรัสอีกครั้ง หลังจากในอดีตเคยระบาดไม่ว่าจะเป็นซาร์ หรือเมิร์ส ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ล้วนมาจากการพัฒนาของเชื้อโคโรนาไวรัสทั้งสิ้น แม้กระทั่งโควิด-19 เองก็ตาม แต่จะเห็นว่าวิวัฒนาการของการผลิตคิดค้นวัคซีนมีการเปลี่ยนแปลงไป ต่อไปการเอาชนะไวรัสอาจเกิดขึ้นจากยา ไม่จำกัดแค่การฉีดวัคซีนอีกต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องคิดคนพัฒนา หากสามารถทำได้ โคโรนาไวรัสก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ส่วนที่ขณะนี้หลายคนเห็นข่าวการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นอยากให้เข้าใจว่าเป็นธรรมดาของไวรัสที่จะมีการพัฒนาและกลายพันธุ์ แต่การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 จะต้องดูว่าการพัฒนาแพร่เร็วและอ่อนกำลังลงหรือเชื้อพัฒนาขึ้นอย่างไร แต่ ส่วนใหญ่ของการกลายพันธุ์ หากแพร่เร็วมักจะพบว่าเชื้อไวรัสมีการอ่อนกำลังลง


นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า การดำเนินชีวิตใหม่ของประชาชนจากนี้ หรือนิวนอร์มอล ไม่ได้หมายความว่าขึ้นอยู่กับการสวมหน้ากากหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิส่วนบุคคล แต่คนเราจะสามารถประเมินได้ว่าสถานที่ไหนควรสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา จะเห็นว่าปัญหาในโซเชียลมีเดียมีมาก เกิดการกระจายและส่งต่อข้อมูลที่ไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลหรือความคิดเห็น ต้องให้ประชาชนเกิดการรับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก จึงอยากเน้นย้ำให้ผู้มีหน้าที่ หากพบว่าเชื้อไวรัสมีการกลายพันธุ์ ควรเร่งให้ข้อมูล และเชื่อว่าจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการจับตาเหมือนกันทั่วโลก ขณะเดียวกัน ในส่วนของประชาชนผู้บริโภคข่าวสารก็ต้องใช้วิจารณญาณในการแยกแยะระหว่างความคิดเห็นกับข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดการนำไปใช้ข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสมในการป้องกันและดูแลตนเอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ