กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – สถาบันจัดอันดับเอสแอนด์พีปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยดีขึ้น เชิงบวกจากระดับมีเสถียรภาพ ครั้งแรกในรอบ 9 ปี
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 16.30 น. บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้มีการปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยจากระดับมีเสถียรภาพ (Stable) เป็นเชิงบวก (Positive) เป็นการปรับมุมมองครั้งแรกในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2553 โดยยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในการออกตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศระยะยาวที่ BBB+ และระยะสั้นที่ A-2 รวมทั้งคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินบาทระยะยาวที่ A- และระยะสั้นที่ A-2
สำหรับปัจจัยบวกมาจากภาคการคลังแข็งแกร่งและระดับหนี้สาธารณะที่ต่ำ ฐานะการเงินระหว่างประเทศและสภาพคล่องที่อยู่ในระดับสูง การดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่เหมาะสมในช่วงที่ผ่านมา และการมียุทธศาสตร์ชาติก็เป็นสิ่งที่ดี รวมทั้งการมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งน่าจะตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดี มีเสถียรภาพทางการเมือง น่าจะส่งผลดีกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการบริหารงาน เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อจากนี้ไปบริษัท S&P ประเมินว่า ควรต้องติดตามผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐ – จีน ที่มีต่อภาคการส่งออกของไทย
นายอุตตม กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาสถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำต่าง ๆ ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือที่มีต่อเศรษฐกิจไทย โดยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 บริษัท Fitch Ratings (Fitch) และบริษัท Moody’s Investors Service (Moody’s) ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจากระดับมีเสถียรภาพ เป็นเชิงบวก และยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยที่ระดับ BBB+ และ Baa1 ตามลำดับ และต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2562 บริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยดีขึ้นจากระดับ BBB+ มาเป็น A- สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ การปรับมุมมองความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยของสถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำต่าง ๆ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) ต่อไป เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจไทยในอนาคต.-สำนักข่าวไทย