วอชิงตัน 8 เม.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยืนยันไม่ระงับมาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก แม้จะกำลังทำให้ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกปั่นป่วนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
วันจันทร์เป็นอีกวันที่บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงเทขายอย่างหนัก ปิดการซื้อขายตลาดหุ้น วอลล์สตรีทของสหรัฐ เมื่อวานนี้ ดัชนีหุ้นดาวโจน์ดิ่งลง 349.26 จุด ปิดที่ 37,965.60 จุด เอสแอนด์พีปรับลด 11.83 จุด ปิดที่ 5,062.25 จุด มีเพียงเอสแอนด์พีที่บวกเพิ่ม 15.48 จุด ปิดที่ 15,603.26 จุด แต่ก่อนหน้านั้นในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน ทั้ง 3 ดัชนีสำคัญต่างเผชิญแรงเทขายอย่างหนักจนหุ้นร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 ปี ก่อนประคองตัวขึ้นมาได้ แต่ภาพรวมการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ สองวันที่ผ่านมาย่ำแย่ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พีดิ่งลงถึง 10.5% มูลค่าตลาดหายไปกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นการเผชิญแรงเทขายติดต่อกัน 2 วันที่หนักหนาสาหัสที่สุดในรอบ 5 ปี

ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรปวานนี้ดิ่งลงหนักต่อเนื่องเช่นกัน ดัชนีฟุตซี่ 100 ของอังกฤษ ร่วง 352.90 จุด ปิดที่ 7,702.08 จุด แดกซ์ของเยอรมนี ลงไป 852.10 จุด หรือ 4.13% ปิดที่ 19,789.62 จุด ซีเอซี-40 ของฝรั่งเศส ลดลง 347.83 จุด หรือเกือบ 4.8% ปิดที่ 6,927.12 จุด เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลดลงไปกว่า 5 ดอลลาร์ ก่อนปิดที่ใกล้ระดับ 61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีทรัมป์ย้ำว่า เขาจะไม่ถอยหลังหรือทบทวนนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าถ้วนหน้าอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มีประเทศต่างๆ ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาจำนวนมาก นั่นแปลว่าทุกประเทศรู้ดีว่าเคยได้ดุลการค้าจำนวนมากจากสหรัฐและต้องการพูดคุยเพื่อให้เกิดข้อตกลงที่ยุติธรรม พร้อมขู่ตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 50% หากจีนไม่ยกเลิกการตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐ ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 34% ภายในวันนี้ อีกทั้งจะไม่พิจารณาคำขอใดๆ ของจีนเพื่อหวังเจรจากันด้วย.-815.-สำนักข่าวไทย