ก.คมนาคม 25 ก.ย. – “พิพัฒน์” เข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก พร้อมระบุมีเวลาแค่ 4 เดือน ขอหัวใจคนกระทรวงคมนาคมทำงานร่วมกัน ที่สำคัญเวลาไปตรวจงานที่ต่างจังหวัด ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ข้าราชการตามมากันจำนวนมาก ขอแค่หน่วยงานต้นสังกัดเท่านั้น พร้อมเผยขอเวลา 1-2 สัปดาห์ศึกษานโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทว่าจะเดินหน้าต่อหรือไม่ ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์พร้อมเดินหน้าต่อแน่นอน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ถือฤกษ์ 08.19 น. เข้าทำงานที่กระทรวงคมนาคมวันแรก โดยได้เข้าสักการะพระพุทธคมนาคมบพิธ และศาลพระภูมิประจำกระทรวงคมนาคม ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร หลังจากนั้นหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ มอบดอกไม้แสดงความยินดี
นายพิพัฒน์ กล่าวเปิดใจบนเวที ว่า กระทรวงคมนาคมมีภารกิจขับเคลื่อนการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตนเองพร้อมนำนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ที่เตรียมแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรมาปฏิบัติตาม ต้องยอมรับว่า รัฐบาลชุดนี้จะมีอายุเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นก่อนยุบสภา ดังนั้นโครงการอะไรก็แล้วแต่ที่ผ่านงบประมาณปี 2569 วันที่ 1 ตุลาคมนี้สามารถนำไปใช้ได้เลย ขอให้ทุกคนช่วยกันเพราะถ้ามองจากจีดีพีช่วงนี้จะเห็นได้ว่า ไทยเราเติบโตช้าที่สุดในอาเซียน ดังนั้นกระทรวงคมนาคมจะต้องรังสรรค์สร้างงานออกมา ต้องทำ ต้องสร้างเพราะกระทรวงคมนาคมถือเป็นกระทรวงเกรดเอบวกบวก ประเทศกำลังรอความหวังจากเรา ทั้งนี้ขอความกรุณาเลยนะครับ ว่า เวลาตนเองไปตรวจงานที่ต่างจังหวัด ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ข้าราชการตามมากันจำนวนมาก ขอให้ติดตามไปแค่หน่วยงานต้นสังกัดเท่านั้น ไม่อยากให้ถูกมองว่า ยกโขยงกันมาทำไมเยอะแยะ ส่วนปลัดกระทรวงคมนาคม ไม่จำเป็นต้องตามตนเองไปตลอด ตนเองอยากขอหัวใจและขอแรงทุกคนในกระทรวงคมนาคมมาทำงานร่วมกัน
นายพิพัฒน์ ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ว่า จะนำเข้าหารือทันทีภายใน 1-2 สัปดาห์นี้หลังจากนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งทราบว่าจะมีการแถลงนโยบายในวันที่ 29-30 กันยายนนี้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นมองว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย สร้างภาระให้รัฐบาลต้องจ่ายชดเชยปีละ 20,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องค่าทางด่วนในกรุงเทพมหานครก็จะนำมาศึกษาด้วยเพราะทุกวันนี้ชาวกรุงเทพมหานครต้องจ่ายค่าทางด่วนในอัตราที่สูงมาก สำหรับนโยบายแลนด์บริดจ์นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และผ่านมาแล้วหลายรัฐบาล มีทั้งผู้เห็นด้วยและผู้คัดค้าน แต่ยืนยันจะเดินหน้าต่อโครงการแลนด์บริดจ์ รวมทั้งโครงการรถไฟรางคู่ นครราชสีมา-หนองคาย นครสวรรค์-เชียงใหม่และชุมพร-ปาดังเบซาร์ สงขลา ขณะที่เรื่องถนนยุบตัวที่หน้าวชิรพยาบาล เป็นเรื่องทางเทคนิควิศวกรรม รอให้ทาง รฟม.เป็นผู้แถลง และเรื่องที่ดินเขากระโดง เป็นหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่จะไปดำเนินการตามกฎหมายแต่ยืนยันจะมีการดำเนินคดีผู้บุกรุกครอบครองทั้ง 995 แปลง. -513-สำนักข่าวไทย