คมนาคม เบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 แล้วกว่า 1.27 แสนล้านบาท

กรุงเทพ 20 ส.ค.- “สุริยะ” เปิดผลเบิกจ่ายงบลงทุนปี 68 แล้วกว่า 1.27 แสนล้านบาท ด้านมอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน – นครราชสีมา งานโยธาคืบหน้า 98.08% พร้อมเปิดวิ่งตลอดเส้นปี 69 เผยไทยเตรียมพร้อมรับการตรวจประเมินด้านการบินของ ICAO สร้างความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินงานโครงการสำคัญ ตามนโยบายฯ ครั้งที่ 3/2568 โดยได้ติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 มีผลการเบิกจ่ายสะสม 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% (ณ สิ้นเดือน กรกฎาคม 2568) นอกจากนี้ ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางจิระ รวมทั้งหารือแผนการจัดการจราจรระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ และการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินประสิทธิภาพการกำกับดูแลการบินพลเรือนจาก ICAO

นายสุริยะ กล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายเงินกันเหลื่อมปี 2567 วงเงิน 47,373.50 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสมรวม 43,161.39 ล้านบาท คิดเป็น 91.11% ขณะที่งบรายจ่ายลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กระทรวงฯ ได้รับจัดสรรงบประมาณ 212,213.68 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่าย 127,629.81 ล้านบาท คิดเป็น 60.14% อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดทุกหน่วยงานติดตามและตรวจสอบทุกการดำเนินงานในทุกโครงการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล และช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้านงบลงทุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงฯ วงเงิน 101,676.55 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายสะสม 81,351.16 ล้านบาท คิดเป็น 80.01% ทั้งนี้ มีแผนเบิกจ่ายได้ 100% ในเดือนกันยายน 2568 นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแผนลงนามในโครงการสำคัญเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 5,137 รายการ วงเงิน 47,395.43 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กระทรวงฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 265,406.77 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนราชการ 9 หน่วยงาน วงเงิน 199,955.92 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจ 5 หน่วยงาน วงเงิน 65,450.84 ล้านบาท ซึ่งได้รับเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 20,829.80 ล้านบาท คิดเป็น 8.52%


สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M6 สายบางปะอิน – นครราชสีมา ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องทั้งงานโยธาและงานระบบ โดยงานโยธา 98.08% ก่อสร้างแล้วเสร็จ 33 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 สัญญา ได้แก่ บางปะอิน – หินกอง (ตอน 1, 4 และ 5), หินกอง – แก่งคอย – ปากช่อง (ตอน 18, 19, 21 และ 23) ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 ด้านงานระบบ มีความก้าวหน้า 77.75% คาดว่าแล้วเสร็จภายในปี 2569 สำหรับงาน Rest Area จำนวน 15 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โดยมีแผนเริ่มก่อสร้างปลายปี 2569 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปี 2571 ขณะที่โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง M82 สายบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว ได้เร่งรัดก่อสร้างช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว เพื่อเปิดทดลองให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2568

ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ งานเวนคืนสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา – คลองขนานจิตร และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการในส่วนของการปรับแบบสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนาดจิตร – ชุมทางถนนจิระ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเสนอรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการบริหารจัดการของ รฟท. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองของ รฟท. ในเดือนกันยายน 2568 และเสนอรายงานขออนุมติดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย (คกร.) และจัดทำรายงานขออนุมัติดำเนินโครงการต่อกระทรวงฯ ในเดือนตุลาคม 2568

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือแผนการจัดการจราจรในระหว่างการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมฯ ซึ่งแนวส้นทางที่มีการก่อสร้างบนถนนสายต่าง ๆ เช่น ถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนราชปรารภ ถนนเพชรบุรี ถนนวิภาวดีรังสิต อาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ศึกษา/วิเคราะห์ ปริมาณจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและจัดทำรูปแบบการปิดเบี่ยงจราจรระหว่างก่อสร้างที่เหมาะสม รวมทั้งประสานงานรับความเห็นจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดและบรรเทาผลกระทบในระหว่างการก่อสร้าง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์การปิดเบี่ยงจราจรล่วงหน้า ติดตั้งป้ายแนะนำเส้นทางและเส้นทางหลีกเลี่ยงพื้นที่ก่อสร้างให้ประชาชนทราบ สำหรับแผนการดำเนินการบริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2569 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2569


สำหรับการเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยในโครงการตรวจสอบการกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Audit Programme – Continuous Monitoring Approach: USOAP CMA) จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization (ICAO) ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมทุกขั้นตอนเพื่อเข้ารับการตรวจประเมินจาก ICAO ซึ่งการตรวจประเมินมีความสำคัญมากเนื่องจากจะเป็นการยืนยันมาตรฐานด้านการบินของประเทศไทย ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยในระดับนานาชาติ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]

ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568 พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว […]

ก.พาณิชย์ ปรับร้าน “เจ๊ไฝ” 2 พันบาท ไม่ติดป้ายแสดงราคาชัดเจน

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – ภาครัฐร่วมมือลงพื้นที่ตรวจสอบร้าน “เจ๊ไฝ” หลังถูกร้องเรียน ขายไข่เจียวปูราคาสูงกว่าป้ายกำกับ โดยถูกกรมการค้าภายในสั่งปรับ 2,000 บาท เพราะไม่มีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน พร้อมตรวจสอบต้นทุนวัตถุดิบเพื่อวิเคราะห์ราคาขาย วันนี้ (20 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบร้านไข่เจียวปูชื้อดัง “เจ๊ไฝ” ย่านประตูผี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า เมนูไข่เจียวปูที่ระบุราคาไว้ 1,500 บาท แต่ลูกค้าถูกเรียกเก็บเงินสูงถึง 4,000 บาท นายพิสิฐ อภิชนาพงศ์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการร่วมตรวจสอบร้านเจ๊ไฝ พบว่าไม่มีป้ายแสดงราคาไข่เจียวปู 4,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบ จึงถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในมาตรา 28 ที่ระบุเอาไว้ว่า ทางร้านต้องติดป้ายราคาสินค้า และบริการ ให้ชัดเจนหากมีการฝ่าฝืน จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท […]

ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน ที่ปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งรายบุคคลและหน่วย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ คาดต้นเดือนกันยายนเรียบร้อย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องที่เป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงติดตามสถานการณ์มาตลอด โดยในกรณีที่เกิดความสูญเสีย ได้ทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ล่าสุด รองราชเลขานุการในพระองค์ ได้ติดต่อมายังกระทรวงกลาโหมและมาถึงตนว่า พระองค์ท่านทรงห่วงใยเรื่องการพระราชทานเหรียญกล้าหาญ ว่าได้ดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมได้เร่งรัดที่จะขอพระราชทานเหรียญให้กับทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยหลักเกณฑ์จะคล้ายกันกับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการขอเหรียญกล้าหาญในครั้งนี้ กำลังพลเข้าปฎิบัติการเป็นจำนวนมาก กระทรวงกลาโหมจะรวบรวมเสนอไปในคราวเดียวกันเพื่อขอพระราชทาน ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ เมื่อถามว่าการขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญ จะเป็นเหรียญในลักษณะใดบ้าง พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เหรียญจะไปถึงขั้นรามาธิบดี และเหรียญทุกระดับที่สามารถให้ได้ตามความเหมาะสม มีพฤติการณ์ที่สอดคล้อง แต่เนื่องจากมีกำลังพลจำนวนมาก ตนได้ให้แนวทางไปว่า ให้ขอไป 2 ลักษณะ […]