กรุงเทพฯ 12 ธ.ค. – กรุงศรีคาดเงินบาทปี 63 แข็งค่าต่อ 1-2 % แข็งค่าสุดที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตาเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปี 2563 ยังมีแนวโน้มแข็งค่า แต่อัตราการแข็งค่ามีแนวโน้มชะลอลง โดยแข็งค่าประมาณ 1-2 % และเงินบาทจะเคลื่อนไหว 2 ทิศทางมากขึ้น โดยคาดว่าเงินบาทมีกรอบเคลื่อนไหว 29.25-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากสิ้นปีนี้ที่ 30.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยจะแข็งค่าสุดที่ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4/2563 โดยตลาดระมัดระวังสัญญาณการดูแลค่าเงินบาทจากทางการเพิ่มเติม หลังจากปี 2562 เงินบาทแข็งค่ามากถึง 7.41 % แข็งค่ามากสุดในเอเชีย และอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน
ขณะที่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.25 ตลอดปี 2563 แต่ประสิทธิภาพการลดดอกเบี้ยลดลง เพราะนักลงทุนและประชาชนไม่มั่นใจต่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ดังนั้น หากจะลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะลดลงเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในปีหน้า
ขณะที่ภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกจะมีเสถียรภาพมากขึ้น คาดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยต่อไปแต่ในอัตราที่ชะลอลง เฟดอาจลดดอกเบี้ยไตรมาส 4/2563 ซึ่งจะมีผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และมีแนวโน้มเงินทุนจะไหลเข้าไทยจากปีนี้ที่ไหลออก เพราะสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือหลายแห่งปรับเพิ่มเรตติ้งประเทศไทย เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
ส่วนปัจจัยที่กดดันเงินบาทยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่คาดว่ายังยืดเยื้อและ การเมืองในสหรัฐที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 รวมทั้งรอยต่อการที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit ) และการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ สำหรับวาระปี 2563-2568 ซึ่งจะมีผลต่อการทำนโยบายการเงินของไทย .-สำนักข่าวไทย