ย้ำ ‘มทภ.1’ ควบคุมสั่งการตลอด แต่ขอปิดทองหลังพระ-ไม่หิวแสง

3 ก.ย.- ทภ.1 ขอคนไทยมั่นใจ ทวงคืนอธิปไตย ‘บ้านหนองจาน’ ได้ เล็งยกระดับมาตรการกดดัน นอกจากกดดันด้วยกระดาษ เล็งเข้ารื้อถอนเพิ่ม ย้ำ ‘แม่ทัพภาคที่ 1’ ควบคุม สั่งการ ลงพื้นที่ตลอด แต่ขอปิดทองหลังพระ ไม่หิวแสง ย้ำเปลี่ยนแม่ทัพ – เปลี่ยนรัฐบาล ไม่ส่งผลความมั่นคงชายแดน


พล.ต.สุรวิชญ์ แดงจันทร์เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาบริเวณพื้นที่ จ.สระแก้ว มีความสำคัญและจากนี้ไปกองทัพภาคที่ 1 จะแถลงข่าวตามสถานการณ์ ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการสรุปสถานการณ์ ว่า ได้ปฏิบัติตามแผนจักรพงษ์ภูวนารถ 681 กองทัพบก โดยย้ำว่า กองทัพภาคที่ 1 ได้ปฏิบัติการตั้งแต่เช้ามืด 26ก.ค. 2568 ในการผลักดันพื้นที่เป้าหมายด้วยศักยภาพที่สูงกว่าหลายเท่า ทำให้ฝ่ายกัมพูชาล่าถอยออกไป จึงสามารถทวงคืนอธิปไตยบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว มาได้ส่วนหนึ่งและมีการกั้นแนวลวดหนามเพื่อเป็นแนวป้องกัน ซึ่งการปฏิบัติการดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ลงพื่นที่กำกับด้วยตนเอง โดยย้ำความรอบคอบเพื่อไม่ให้พลเรือนกัมพูชาบาดเจ็บและเสียชีวิต เพราะกระทบฝ่ายไทยต่อสายตาต่างประเทศ

ต่อเนื่องจากการปฏิบัติการดังกล่าว ตนเองเป็นตัวแทน กองทัพภาคที่ 1 ในการเดินทางไปร่วมประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อผลักดันข้อตกลง 13 ข้อ โดยมี 2 ข้อ ที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบรับ คือ การเก็บกู้ทุนระเบิดและการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่ง เป็นการบ้านสำคัญของ กองทัพภาคที่ 1 และดำเนินการจนสำเร็จ ทำให้ฝ่ายกัมพูชาตอบรับในการประชุม RBC ที่ จ.สระแก้ว จึงเชื่อว่าจะเป็นสารตั้งต้นในการแก้ปัญหาต่างๆ เพราะในการรบ การเอาชนะไม่ได้มีเพียงการใช้กำลังเท่านั้น แต่ยังมียุทธการและยุทธศาสตร์อื่นๆ โดยเฉพาะการซีลชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ทำให้บ่อนกาสิโนหลายแห่งกำลังจะปิด จะส่งผลโดยตรงกับกัมพูชา เพราะรายได้จากบ่อนกาสิโนเป็นที่มาของงบจัดซื้อยุทโธปกรณ์


ทั้งนี้การดำเนินการจนฝ่ายกัมพูชายอมรับ 2 ข้อ ทาง กองทัพภาคที่ 1 ยังดำเนินการให้กัมพูชายอมรับเพิ่มกรณีจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน ซึ่งรวมถึงพื้นที่บ้านหนองจานที่กัมพูชารุกล้ำมานาน โดยในการเจรจาฝ่ายกัมพูชาพยายาขีดฆ่าไม่ยอมรับ 3 รอบ แต่ในที่สุดก็ทำสำเร็จ

ซึ่งในวันนี้ จ.สระแก้ว โดย ผู้ว่าฯ ได้พาประชาชนไปรังวัดพื้นที่เพื่อเตรียมเอกสารสิทธิ์ จึงเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่บ้านหนองจานส่วนหนึ่งกำลังมีความสุข หลังถูกละเมิดมากว่า 40 ปี และจากนี้ ผู้ว่าฯ จ.สระแก้ว จะมีการต่อยอด โดยมีการทำหนังสื่อถึงผู้ว่าฯ จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย เพื่อให้อพยพยาวบ้านอีกร้อยกว่าหลังคาเรือนออกไป มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายเข้าเมือง จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพภาคที่ 1 จะเดินหน้าต่อเนื่อง ในการทวงพื้นที่อธิปไตยบ้านหนองจานกลับมา เพราะเป็นนโยบายสำคัญที่ แม่ทัพภาคที่ 1 กำชับมาตลอด

“ท่านแม่ทัพภาคที่ 1 ท่านขอปิดทองหลังพระ ท่านไม่ต้องการแสงมากมาย แต่ขอให้ประชาชนไทยให้เวลา วันนี้เรานับ1-2 มาแล้ว จะต้องมีความรืบหน้า แต่อาจไม่ทันใจ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องใช้ความรอบคอบ ถ้าใช้กำลังทหารกับประชาชนชาวกัมพูชา ภาพลักษณ์ประเทศไทยจะเป็นอีกแบบทันที”


พร้อมย้ำว่า วันนี้ขอฝากแฮชแท็ก แผ่นดินของเราย่อมเป็นของเราอยู่ดี เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่ากระบวนการทวงคืน อธิปไตยบ้านหนองจานจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากนี้ไปคงไม่สามารถใช้ บทคนไทยเป็นพี่ใหญ่ใจดีได้อีกต่อไป หากส่งหนังสือแล้วทางกัมพูชา ยังไม่นำประชาชนของตัวเองออกไป ฝ่ายไทยคงไม่เพียงส่งหนังสือประท้วงเช่นที่ผ่าน แต่จะต้องตามมาด้วยมาตรการกดดันต่างๆ เช่น การรื้อถอน หรือมาตรการอื่นๆ ที่เราจะกำหนดและออกแบบมา

เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ยังกล่าวด้วยว่า ขอยืนยัน กองทัพภาคที่ 1 ยึดมั่นในศักดิ์ศรี การรักษาอธิปไตย ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน การกล่าวหาว่ามีผบประโยชน์ในพื้นที่ ถ้าใครมีหลักฐานให้นำชื่อ นามสกุล และสังกัดมาแจ้งที่ตัวเอง เพื่อดำเนินคดีทั้งทสงวินัยและอาญา

เมื่อถามถึงกรณีการเปิด-ปิดด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ก่อนหน้านี้จนถูกวิจารณ์ ว่า การเปิดด่านอยู่ในอำนาจกองกำลังบูรพา ที่อยู่ภายใต้ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งการเปิดด่านครั้งล่าสุด คนเข้าเมืองเพราะได้รับรายงานจากตรวจคนเข้าเมืองว่ามีปริมาณคนไทยตกค้างฝั่งกัมพูชาจำนวนมาก จึงได้อนุญาตเป็นกรณีไป และได้ปิดด่านสนิทไปแล้ว

พร้อมระบุว่าในการอนุญาตให้คน 2 ประเทศ กลับประเทศตัวเอง ไม่ได้ดำเนินการแบบเวลาปกติ โดยมีการสุ่มตรวจโทรศัพท์และทำการสอบสวน ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในขบวนการสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ผู้ที่ข้ามไปเล่นการพนัน โดยจะนำไปต่อยอดในการปราบปรามและตัดท่อน้ำเลี้ยง

เมื่อถามว่าในเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีการเปลี่ยนม้ากลางศึกและเปลี่ยนแม่ทัพหรือไม่ รวมถึงนโยบายของกองทัพจะดำเนินต่อไปหรือไม่ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เรื่องของระบบหรือนโยบายต้องมีความชัดเจน เพราะบางอย่างเราต้องทำตามกรอบหรือเจตนารมย์ของกองทัพ และต่อไปนี้เชื่อว่าจะมีกรอบนโยบายระดับชาติ เหมือนที่มีการตั้งคำถามว่าในระดับรัฐบาลมีการตั้งมาตรฐานอย่างไรเช่นกัน ส่วนขณะนี้ได้มีการนำส่งปัญหาต่างๆ ในพื้นที่รวมถึงปัญหาต่าง ๆ ในฝั่งของกองทัพภาคที่ 2 แล้ว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เรากำลังรวบรวมข้อมูลให้ได้ข้อตกลงกัน และต้องทำข้อตกลงกับกัมพูชาให้ได้ในระดับหนึ่งก่อน เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้

เมื่อถามอีกว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง อาจจะเป็นสุญญากาศทางการเมือง จะทำให้เป็นปัญหาเรื่องของความมั่นคงหรือไม่ พล.ต.สุรวิชญ์  กล่าวว่า ไม่ ตนเชื่อว่ารัฐบาลรักษาการมีหน้าที่ในการปฏิบัติแก้ไขปัญหา เพราะฉะนั้นตนในฐานะที่เป็นทหาร ก็ต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบ รักษาอธิปไตยของชาติอย่างเข้มแข็ง และในพื้นที่ก็ไม่น่อยหน้า-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.นครพนม จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครพนม จันทบุรี และตราด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 […]

ชนกัน 10 คันรวด ทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม เบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน เป็นคนไทย 3 คน และชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]