fbpx

นายกฯ ชูการพัฒนาอย่างยั่งยืน สานต่อความร่วมมืออาเซียน-เกาหลี

ทำเนียบฯ 24 พ.ย.-นายกรัฐมนตรีเดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลี สมัยพิเศษ และผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี 24-27 พ.ย. ชูบทบาทไทยในฐานะประธานอาเซียนนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติมาใช้ สานต่อความร่วมมือในโอกาสครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน- เกาหลี 


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 (2019 ASEAN-ROK Commemorative Summit) และการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 1 (1st Mekong-ROK Summit) ระหว่างวันที่ 24 – 27 พฤศจิกายน 2562 ณ นครปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี ว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 เป็นการประชุมระดับผู้นำ ระหว่างผู้นำอาเซียนกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสการครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นประธานร่วมของการประชุมสุดยอดฯ ในหัวข้อ ASEAN-ROK 30&30 ซึ่งจะทบทวนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียน กับสาธารณรัฐเกาหลีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และกำหนดทิศทางในอีก 30 ปีข้างหน้า รวมทั้งจะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ในประเด็นความเชื่อมโยงเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่งและความยั่งยืน ภายใต้นโยบายมุ่งใต้ใหม่ โดยจะดูว่า เกาหลี ใต้จะสามารถเชื่อมโยงกับอาเซียนในจุดใดได้บ้าง ในแผนว่าด้วยการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน 


นางนฤมล กล่าวว่า การประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีอย่างไม่เป็นทางการ จะแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นของภูมิภาค และประเด็นที่อยู่ในความสนใจ และมีความกังวลร่วมกันเช่น คาบสมุทรเกาหลี เป้าหมายต่าง ๆ ของโลกจนถึงปี 2030 ผลักดันความเชื่อมโยงและเสริมสร้างยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“หลัก ๆ ในเวทีนี้ราจะผลักดันความเชื่อมโยงและยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ที่จะนำไปสู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม โดยที่เราต้องการ บทบาทนำในอาเซียนของไทย ในการที่จะนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในทุกมิติมาใช้ในภูมิภาคอาเซียน และให้เกาหลีสนับสนุนบทบาทนี้ของไทย และเราอยากผลักดันให้เกาหลีสนับสนุนมุมมองของอาเซียน ต่อ อินโด แปซิฟิก โดยริเริ่มโครงการที่เป็นรูปธรรมกับเกาหลี ให้อาเซียนเป็นแกนกลางของความร่วมมือต่าง ๆ เหล่านี้ ควบคู่กับการที่เราจะใช้ประโยชน์ของกลไกจากอาเซียน เป็นแกนนำในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในภูมิภาค และสุดท้ายเป็นเรื่องของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี การปฏิบัติที่เป็นเลิศ ที่ทางเกาหลีมี ในสาขาที่เป็นประโยชน์กับไทยเช่นนวัตกรรม เมืองอัจฉริยะ และความร่วมมือในการพัฒนาทุนมนุษย์ และพัฒนาแรงงานไทย เพื่อรองรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม” นางนฤมล กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีมีกำหนดหารือทวิภาคีกับนายมุน แจอิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี โดยจะหยิบยก เรื่องการเชิญชวนนักลงทุน จากสาธารณรัฐเกาหลี มาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และจะหารือกันถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการน้ำเนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลีมีความเชี่ยวชาญ ไทยจึงอยากมีความร่วมมือในส่วนนี้ และยังมีความร่วมมือในเรื่อง Start Up และ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ sme ซึ่งทางเกาหลีใต้ก็มีนโยบายที่จะสนับสนุนในเรื่องนี้ รวมถึงประเด็นการแก้ไขปัญหาแรงงานไทยในเกาหลีใต้ร่วมกัน 


นางนฤมล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ร่วมกัน 3 ฉบับ  คือ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริม การค้าและการลงทุน ในพื้นที่ อีอีซี  ระหว่าง สกพอ.กับ Kotra และ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 1 (1st Mekong-ROK Summit) เป็นความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี (Mekong-ROK) โดยเป็นข้อริเริ่มของสาธารณรัฐเกาหลี ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย และสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือเพื่อพัฒนากลุ่มลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน และผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน ระหว่างกันด้วย .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน