กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – “มนัญญา” ปวดหัวหนักมาก เข้า รพ.สมิติเวช ฉีดยาระงับความเครียด หลังถกเครียดแบน 3 สารพิษ ลั่นไม่ยอมปล่อยคณะกรรมการวัถตุอันตรายยืดเวลาไปถึง 1 ม.ค.63
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้มีอาการปวดศีรษะมาก คาดว่าเป็นเพราะเครียดมากไปจากการเร่งแบนสารเคมี 3 ชนิด ซึ่งไปฉีดยาที่โรงพยาบาลสมิติเวช หลังจากนั้นจะเข้ากระทรวงฯ เพื่อตรวจทานเอกสารทั้งหมดจากการประชุมของคณะทำงาน 4 ฝ่ายเมื่อวานนี้ คณะทำงาน ประกอบด้วย ฝ่ายรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร ผู้บริโภค ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้แบน 3 สารทันที โดยมีผลวันที่ 1 ธันวาคม 2562
สำหรับข้อสรุปและรายละเอียดทั้งหมดนั้น จะต้องให้คณะทำงาน 4 ฝ่าย ลงนามรับรองมติแบน 3 สาร คือ คลอร์ไพริฟอส พาราควอต และไกลโฟเซต โดยเห็นว่าเป็นวัถตุอันตรายชนิดที่ 4 ห้ามครอบครอง ห้ามจำหน่าย ห้ามนำเข้า ห้ามผลิต จะรวบรวมเอกสารให้เสร็จวันนี้ เร่งนำเสนอนายกรัฐมนตรี และ 3 รัฐมนตรีทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อลงนามเห็นชอบการแบน จากนั้นจะเสนอเข้าคณะกรรมการวัถตุอันตรายภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้คณะกรรมการฯ สามารถเรียกประชุมแบน 3 สารได้ทันที หากกระทรวงเกษตรฯ ยื่นเร็วจะได้เรียกประชุมเร็ว จากกำหนดเดิมที่จะประชุมวันที่ 27 ตุลาคม
“ที่ประชุมคณะทำงาน 4 ฝ่ายเมื่อวานนี้ใช้เวลานาน เพราะพูดคุยกันเยอะมากถกหลายปัญหา จึงตัดสินใจบอกว่าขอรับผิดชอบทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่อย่างนั้นไม่จบ อ้างเหตุการณ์ต่าง ๆ ข้าราชการกลัวถูกฟ้อง จึงบอกในที่ประชุมว่าไม่ให้ใช้เอกสารเก่ามาเสนอ เพราะไม่สามารถรับได้ ให้ใช้เอกสารใหม่มาพิจารณา ที่ผ่านมาประชุมกันหลายครั้ง พูดวนเวียนอยู่เกี่ยวกับข้อมูลเอกสารเก่า ส่วนบทเรียนในอดีตบางอย่างศึกษาได้ให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรและคนส่วนใหญ่มากที่สุด ถ้าไปยึดติดเรื่องเดิม ๆ จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้” น.ส.มนัญญา กล่าว
น.ส. มนัญญา กล่าวต่อว่า ในการประชุมวานนี้ผู้แทนฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคหยิบขวดพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ ยืนยันว่ามาตรการจำกัดการใช้สารที่มักยกขึ้นมาเสนอเป็นแผนปฏิบัติการอบรมเกษตรกร ผู้รับจ้างพ่นสารเป็นมาตรการที่ไม่ได้ทำจริง ใครไปซื้อสารต้องมีใบอนุญาตการใช้จากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ จึงซื้อได้จากร้านค้า ซึ่งผู้บริโภคยืนยันว่าซื้อได้โดยเสรี พ่อค้ายังถามว่า ทำไมไม่ซื้อเพิ่ม ดังนั้น เป็นการยืนยันว่ามาตรการจำกัดการใช้ที่หน่วยงานกำหนดมาล้มเหลว ปฏิบัติไม่ได้จึงต้องล้มทั้งหมด
รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า เดินมาถึงจุดนี้ได้ต้องยกความดีให้พรรคภูมิใจไทยให้เกียรติทุกอย่าง และให้ทำได้เต็มที่ วันนี้มีกำลังใจดีจากประชาชนทั่วสารทิศที่ส่งมาให้ยกย่องเป็นวีรสตรี หลายคนบอกว่าไม่คิดว่าในชีวิตจะได้อยู่เห็นเรื่องการแบนสารพิษหมดจากประเทศไทย ในประเทศไทยมีคนเก่งเยอะ หากมีความดี มีคุณธรรม และจริยธรรม จะช่วยพัฒนาประเทศมากขึ้น พยายามทำเรื่องแบน 3 สารให้จบโดยเร็ว โดยไม่ยอมให้ยืดไปอีกถึงวันที่ 1 มกราคม 2563 ต้องให้แบนวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ก่อนคนไทยไปเที่ยวปีใหม่ เพื่อจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์ กินพืชพรรณธัญญาหารที่ปลอดสารพิษ.-สำนักข่าวไทย