“มนัญญา” ย้ำปลดล็อกสมุนไพรจากวัตถุอันตราย ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

กรุงเทพฯ  15 ก.ค. – “มนัญญา” ปลดล็อกสมุนไพรจากบัญชีวัตถุอันตราย เพราะต้องการให้เกษตรกรลด ละ เลิกใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ดำเนินตามนโยบายกระทรวงเกษตรฯ ขยายการผลิตสินค้าอินทรีย์ ชี้ชีวิตไม่ได้ลำบาก จึงไม่ได้หวังทำสารชีวภัณฑ์จำหน่ายตามที่มีผู้กล่าวหา


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงถึงกรณีที่มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเร่งออกร่างกฎหมาย เพื่อปรับสารสำคัญจากสมุนไพร 13 ชนิด ซึ่งตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมจัดให้อยู่ในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 (วอ.2) มานานหลายปีแล้ว โดยต้องการให้กรมวิชาการเกษตรพิจารณาเป็นรายชนิดพืช หากชนิดใดมีความเป็นพิษต่ำมากให้ปลดจากบัญชีวัตถุอันตราย แต่หากมีความเป็นพิษอยู่ในระดับที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังให้ปรับมาอยู่ในบัญชีวัตถุอันตรายชนิดที่ 1 (วอ.1) 

ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจต่อประชาชนและเกษตรกร เนื่องจากสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวคลาดเคลื่อนว่า รมช. มนัญญาจะนำพืชสมุนไพรที่ใช้เป็นเครื่องต้มยำและเครื่องแกงเข้าสู่บัญชีวัตถุอันตราย จนมีผู้ไม่พอใจจำนวนมาก สำหรับพืชสมุนไพร 13 ชนิด ได้แก่ สะเดา ตะไคร้หอม ขมิ้นชัน ขิง ข่า ดาวเรือง สาบเสือ กากเมล็ดชา พริก ขึ้นฉ่าย ชุมเห็ดเทศ ดองดึง และหนอนตายหยาก หากเกษตรกรผลิตเป็นสารกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีที่ไม่ใช่กระบวนการเคมี เช่น ไม่ได้สกัดด้วยแอลกอฮอล์ หรือผสมสารเคมีอื่นใด เป็นต้น เกษตรกรที่ผลิตด้วยภูมิปัญญา เช่น การหมัก บ่ม หรือตากแห้งแล้วบดเป็นผงนั้น สามารถทำเพื่อใช้ในไร่นาได้เลย โดยไม่ต้องมาจดแจ้งต่อกรมวิชาการเกษตร แต่หากจะผลิตเพื่อจำหน่ายจะต้องขึ้นทะเบียน


ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าผลักดันเรื่องนี้ เพราะต้องการผลิตสารชีวภัณฑ์ที่ผสมสารเคมีจำหน่ายหรือเอื้อประโยชน์แก่ผู้ประกอบการก็ไม่เป็นความจริง ย้ำว่าชีวิตนี้ไม่ได้ลำบากและครอบครัวไม่ได้ประกอบกิจการค้าสารเคมีทางการเกษตร ตั้งใจทำงานส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคปลอดภัย ตลอดจนผลักดันให้ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรลำดับต้นของโลก

“ให้กรมวิชาการเกษตรพิจารณาสารสำคัญในพืชสมุนไพรทั้ง 13 ชนิดว่า ชนิดใดควรปรับลดจาก วอ.2  เป็นวอ.1 และชนิดใดสมควรปลดออกจากบัญชีวัตถุอันตราย แล้วยกร่างกฎหมายเพื่อนำเสนอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณา โดยกำหนดให้ยกร่างกฎหมายภายใน 1 เดือน เพื่อประโยชน์ของเกษตรกรที่จะลดการพึ่งพาสารเคมีและประชาชนได้บริโภคอาหารปลอดภัย” นางสาวมนัญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยจีนส่งผู้ช่วย รมต.มั่นคง ร่วมสางปม​แก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายก​รัฐมนตรี​ รับทราบ​ จีน​ ส่งผู้ช่วยรัฐ​มนตรี​กระทรวงความมั่นคง​ ร่วมสางปมแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์​ ชายแดนไทย-เมียนมา​ บอก​ อยู่ระหว่างดำเนินการ​ ส่งตัวเจ้าพ่อพนันออนไลน์​กลับประเทศ

จำคุกกำนันนตลอดชีวิต

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” คดีสั่งยิง ตร.ทางหลวง

ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” สั่งยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ชี้มีหลักฐานและพยานยืนยันชัดเจน

เครื่องบินชน ฮ.

เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์ ชนเฮลิคอปเตอร์ ใกล้สนามบินในกรุงวอชิงตัน

เครื่องบินโดยสารในระดับภูมิภาคของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค ของกองทัพสหรัฐ

อุตุฯ เผย กทม.อากาศเย็นในตอนเช้า-ไทยตอนบนหนาวเย็น

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า