คมนาคมดีเดย์อุทธรณ์ค่าโง่โฮปเวลล์ 20 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 29 ส.ค. – คมนาคมวิ่งสู้ฟัดศึกษาข้อกฎหมายก่อนส่งอัยการอุทธรณ์คดีค่าโง่โฮปเวลล์ 20 กันยายนนี้


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการพิเศษ เพื่อต่อสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์ และตัวแทนอัยการ ว่า ได้ให้แนวทางการทำงานและขอให้สู้คดีอย่างเต็มที่ และที่สำคัญต้องทำงานให้ทันตามกรอบเวลาที่ค่อนข้างกระชั้น เนื่องจากคดีค่าโง่โฮปเวลล์ตามคำพิพากษาของศาลปกครองเดิมที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงคมนาคมชดเชยค่าเสียหาย ให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จํากัด ภายใน 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้

ดังนั้น การเตรียมข้อมูลกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้มีการเรียกข้อมูลทั้งจาก รฟท.และหน่วยงานอื่น ๆ โดยมีกรอบเวลาขณะนี้จะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อส่งให้อัยการภายในวันที่ 11 กันยายน เพื่อให้อัยการยื่นอุทธรณ์ข้อต่อสู้ใหม่ต่อศาลปกครองสูงสุด ภายในวันที่ 20 กันยายน 2562 


ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยอมรับด้วยว่าบทเรียนจากคดีค่าโง่โฮปเวลล์นี้ เมื่อตรวจสอบในประเด็นต่าง ๆ ก็พบความผิดปกติหลายเรื่อง เช่น โครงการที่มีมูลค่าสูง แต่กลับมีสัญญาแค่ 8 หน้า รวมถึงการวางกรอบการทำงานในอนาคตเกี่ยวกับการทำสัญญาในโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเห็นว่าควรมีการจัดทำสัญญาหลักเป็นภาษาไทย และหากจำเป็นต้องมีการใช้คู่สัญญาเป็นภาษาต่างประเทศ ก็ต้องมีการแปลจากต้นฉบับภาษาไทยเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการตีความขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ ประเด็นที่เป็นข้อสังเกตทั้งหมดได้นำเรียนให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับประเด็นข้อกฎหมายที่จะนำมาอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดในคดีค่าโง่โฮปเวลล์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน โดยขอให้มีการรายงานตรงความคืบหน้ามายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทันที รวมถึงระมัดระวังการให้ข่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อรูปคดีด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย