“โฮปเวลล์” เล็งยื่นอุทธรณ์สู้คดีค่าโง่ 2 หมื่นล้าน

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – โฮปเวลล์เตรียมยื่นอุทธรณ์ หลังจากศาลปกครองกลางวินิจฉัย ให้รัฐชนะคดี ไม่ต้องจ่ายค่าโง่กว่า 2 หมื่นล้านบาท


หลังจากพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุว่า “ยินดีกับคนไทย เราชนะคดีโฮปเวลล์ครับ” เมื่อศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการที่ให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ชดใช้ค่าโง่โฮปเวลล์ 2.7 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีการพิจารณาคดีใหม่ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 โดยศาลปกครองกลางเห็นว่า โฮปเวลล์ยื่นฟ้องคดีพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ล่าสุด นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เปิดเผยว่า หลังคำวินิจฉัยของศาล ร.ฟ.ท. ขอพิจารณาข้อมูลในคำพิพากษาอย่างละเอียด ก่อนรายงานกระทรวงคมนาคม ซึ่งเบื้องต้นตามขั้นตอนทราบว่าทางโฮปเวลล์ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คดีนี้ไปยังศาลปกครองสูงสุดได้


มีข้อมูลจาก นายสุภัทร ติระชูศักดิ์ ฝ่ายกฎหมาย บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คำพิพากษาของศาลปกครองกลางในครั้งนี้ สอดคล้องกับความเห็นของตุลาการที่เคยให้ไว้ในการพิจารณาคดีครั้งแรก ซึ่งมีประเด็นของการพิจารณาคดีขาดอายุความ รวมทั้งองค์ประกอบของการตีความด้านกฎหมายอีกหลายเรื่อง เบื้องต้นจะรายงานคำพิพากษาคดีครั้งนี้ให้ฝ่ายบริหารของทางโฮปเวลล์ เพื่อพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดอย่างไร โดยตุลาการผู้แถลงคดีได้ให้ความเห็นไว้หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นมีเรื่องคดีขาดอายุความ ซึ่งหลังจากนี้จะขอปรึกษากับทางโฮปเวลล์ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ตามขั้นตอนทางกฎหมายแล้วก็ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด

มีรายงานเพิ่มเติมก่อนหน้านี้ ข้อมูลความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดีเมื่อวันที่ 30 ส.ค.2566 ได้มีความเห็นเกี่ยวกับประเด็นของอายุความ ที่อาจขัดต่อข้อกำหนด เพราะมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่า หากนับอายุความเมื่อศาลปกครองเปิดทำการ ที่กำหนดว่าคดีข้อพิพาทก่อนจัดตั้งศาลปกครองนั้น จะต้องยื่นมายังตุลาการภายใน 1 ปี หลังจัดตั้งศาล และมีอายุความไม่เกิน 10 ปี แต่กลับพบว่าคดีโฮปเวลล์นี้ได้มายื่นคำร้องต่อศาลล่าช้ากว่ากำหนด

โดยตุลาการพิจารณาประเด็นนี้แล้วพบว่า หากนับตั้งแต่วันที่ตั้งศาลปกครองในวันที่ 11 ต.ค.2542 จะต้องยื่นคดีต่อศาลภายใน 1 ปี ครบกำหนดในวันที่ 11 ต.ค.2543 แต่กลับพบว่าทางโฮปเวลล์ได้ยื่นคดีนี้ต่อตุลาการวันที่ 24 พ.ย.2547 ล่าช้าถึง 4 ปี ทำให้สิทธิในการฟ้องคดีไม่เป็นผลตามกฎหมาย


อย่างไรก็ดี ตุลาการได้มีความเห็นในการพิจารณาข้อพิพาทครั้งนี้ด้วยว่า

  1. ควรเพิกถอนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่พิจารณาไปก่อนหน้านี้
  2. ยกเลิกคำร้องของผู้ร้องคดีทั้งสอง
  3. ให้คำสั่งศาลงดบังคับคดีที่เคยพิจารณาไปก่อนหน้านี้ โดยให้มีผลใช้ในช่วงระยะเวลา

ทั้งนี้ หากข้อพิพาทสิ้นสุดและศาลปกครองพิจารณาตามความเห็นของตุลาการ ก็จะมีผลทำให้คดีเรียกร้องค่าเสียหายจากการยกเลิกสัญญาโฮปเวลล์นั้นไม่เป็นผล เพราะถือว่าขาดอายุความ ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม และ ร.ฟ.ท.ไม่ต้องชดเชยค่าเสียหายจากกรณียกเลิกสัญญาก่อสร้างโครงการวงเงิน 27,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินต้นตามที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดไว้ที่ 11,888 ล้านบาท รวมอัตราดอกเบี้ย 7.5% ต่อปีหรือเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 2.4 ล้านบาท นับจากวันที่คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินในปี 2551 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง