ศาล รธน. 10 ก.ย.-มติเอกฉันท์ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้อง “พีระพันธุ์” พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีพลังงาน เหตุ “สนธิญา” ไม่ใช่ผู้มีสิทธิยื่น
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ในคดีที่นายสนธิญา สวัสดี ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 โดยอ้างว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และภริยา ถือครองหุ้นในบริษัทอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 และเสนอชื่อบุคคลที่เป็นกรรมการในบริษัท ให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานที่กำกับดูแล เป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) และ (5) และขอให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแต่เป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) มิใช่การยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ประกอบกับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพโดยตรง จากการกระทำใดของผู้ถูกร้อง และการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 นั้น รัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 บัญญัติให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภา มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกเพื่อให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับคำร้องส่งคำร้องนั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัย รวมทั้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ เป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบและรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ 2561 มาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 .-314.-สำนักข่าวไทย