fbpx

ปตท.ยกระดับงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง

ออสเตรีย 24 มิ.ย. – ปตท.เตรียมขนงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง ต่อยอดสร้างธุรกิจ ผ่านศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพที่ อ.วังน้อย 


นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยระหว่างการนำสื่อมวลชนศึกษาดูงานการจัดการเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ท ซิตี้) และโครงสร้างพื้นฐาน ณ สาธารณรัฐออสเตรีย ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตและไลฟ์สไตล์ของประชาชน ทำให้ ปตท.ให้ความสำคัญในการพัฒนาวิจัยและค้นคว้านวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ โดยจะปรับเปลี่ยนผลงานวิจัยของ ปตท.ที่สถาบันนวัตกรรม ปตท. อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ทำการวิจัยไว้จำนวนมากนำมาต่อยอดพัฒนา เพื่อให้เป็นผลงานและผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง รวมถึงยังจะผลักดันให้เป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจใหม่ ๆ หรือสตาร์ทอัพด้วย  

เบื้องต้นอาจใช้ชื่อพีทีที แอคเซลเออะเรเทอ โดยจะคัดเลือกทีมคนรุ่นใหม่ของ ปตท.ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่มีงานวิจัยที่น่าสนใจ เช่น มหาวิทยาลัย , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อคัดเลือกงานวิจัยที่มีความเป็นไปได้ในการพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เนื่องจากประเด็นนี้เคยมีการพูดกันมานานแล้ว แต่ในด้านการปฏิบัติยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จและร่วมมือกัน


“เราต้องนำผลงานวิจัยที่ประเทศไทยมีมาต่อยอดสร้างธุรกิจใหม่สร้างมูลค่าเปรียบเสมือนกับนำงานที่วางไว้บนหิ้งมาขึ้นห้างสรรพสินค้า เพราะงานวิจัยเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อยอดพัฒนา เพื่อนำมาปรับเปลี่ยนธุรกิจ หรือทรานฟอร์มธุรกิจของ ปตท.ด้วย”  นายวิทวัส กล่าว

ทั้งนี้ การนำงานวิจัยมาต่อยอดนั้น ต้องมีผู้นำในการดำเนินการ  มีเงินทุน หากไม่มีผู้นำผลงานวิจัยก็จะขึ้นหิ้งอยู่เช่นเดิม เพราะฉะนั้น ปตท.จะพยายามเป็นผู้นำหลัก แต่ต้องการทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นจริง โดยตั้งเป้าหมายว่าการผลักดันงานวิจัยครั้งนี้จะมีความชัดเจนภายในปีนี้ ขณะที่ยังได้หารือร่วมกับ มหาวิทยาลัยแล้วกว่า 10 แห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทุกมหาวิทยาลัยมีความกระตือรือร้นที่จะผลักดันงานวิจัยให้สำเร็จ

เบื้องต้นทีมงานได้คัดเลือกสินค้ากลุ่มวิจัย 3 สินค้า เช่น กลุ่มการแพทย์ ซึ่งจะมีการระดมความคิดต่อไปว่า จะดำเนินการอย่างไรให้สำเร็จ สามารถขายเชิงพาณิชย์ หรือขายในห้างให้ ปตท.ยังร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม 4.0 โดยนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทในเครือบริษัท ปตท. ผลิตและสำรวจปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. โดยจะนำหุ่นยนต์มาช่วยงานขุดเจาะใต้น้ำ  คาดว่าไตรมาส 3 ปี 2563 จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม


อย่างไรก็ตาม การร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ไม่ได้มีเพียง ปตท.หน่วยงานเดียว มีภาคเอกชนอื่น ๆ อีก 50 ราย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมให้เป็นยุค 4.0 เพราะหากไม่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต ไม่นำระบบอัตโนมัติมาใช้ ต้นทุนการผลิตของประเทศ อาจแข่งขันไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0 ได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME