ชัวร์ก่อนแชร์: งานวิจัยชี้ฉีดวัคซีนโควิดเสี่ยงป่วยโรคหัวใจหนักกว่าไวรัสโควิด จริงหรือ?

03 เมษายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อบทความเดือนมกราคม 2024 ของ The Blaze เว็บไซต์ที่มีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อ้างงานวิจัยที่พบว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงการป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยเฉพาะในเด็กและคนหนุ่มสาว


บทสรุป :

เป็นข้ออ้างผิด ๆ จากแพทย์ผู้มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน ผ่านการนำเสนองานวิจัยที่เต็มไปด้วยจุดบกพร่องและการบิดเบือน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ข้ออ้างดังกล่าวนำมาจากงานวิจัยโดย เจสซิกา โรส นักชีวสารสนเทศศาสตร์ และ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์ แพทย์โรคหัวใจ ซึ่งมีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทั้งคู่

จากการตรวจสอบโดย Fact Checker พบว่า งานวิจัยที่กล่าวอ้างมีข้อบกพร่องและการบิดเบือนข้อมูลหลายประการ

กลุ่มตัวอย่างฉีดวัคซีนมานานกว่า 1 ปี

ข้อมูลที่ทีมวิจัยใช้เป็นหลักฐานอ้างอิง นำมาจากระบบรายงานเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS) โดยเคสแรกเป็นการเสียชีวิตของชายวัย 33 ปี ที่เสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ส่วนเคสที่ 2 เป็นเยาวชนชายวัย 15 ปีที่ป่วยหนักจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเสียชีวิตในเวลาเพียง 4 วัน

อย่างไรก็ดี เมื่อตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พบว่าเยาวชนชายวัย 15 ปีฉีดวัคซีนครั้งสุดท้ายประมาณ 1 ปีก่อนเสียชีวิต ส่วนชายวัย 33 ปีไม่ได้ฉีดวัคซีนมาเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี

การเชื่อมโยงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบกับการเสียชีวิตของบุคคลทั้ง 2 มีความขัดแย้งกับข้อมูลทางการแพทย์ ที่พบว่าภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19 จะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์แรกหลังการฉีดวัคซีน มีส่วนน้อยที่พบหลังจากรับวัคซีนไปแล้ว 1 เดือน โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19 จะเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 7 วัน

ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนไม่ใช่อาการรุนแรง

ทีมวิจัยยังอ้างว่า ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19 ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง โดยพบว่า 76% ของผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน

อย่างไรก็ดี รายงานจาก VAERS ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การรักษาตัวทั้งหมดมีสาเหตุจากวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ นอกจากนี้ งานวิจัยส่วนใหญ่ยังพบว่าผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนโควิด-19 มักมีอาการไม่รุนแรงและส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง

โปรตีนหนามจากไวรัสอันตรายกว่าวัคซีน

ทีมวิจัยยังอ้างงานวิจัยโดยสแวงค์และคณะ ที่พบว่าโปรตีนหนามที่เกิดจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อร่างกายนานเป็นปี

อย่างไรก็ดี เดวิด วอลต์ ศาสตราจารย์ด้านพยาธิวิทยา โรงพยาบาล Brigham and Women’s Hospital และสมาชิกสถาบัน Wyss Institute มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งร่วมในงานวิจัยที่ถูกอ้างอิง ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเจสซิกา โรส และ ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์

เดวิด วอลต์ ชี้แจงว่าทีมวิจัยไม่ได้ตรวจพบโปรตีนหนามในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 นานเป็นปี แต่ตรวจพบ S1 หรือหน่วยย่อยของโปรตีนหนามในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 3-7 วันหลังจากรับวัคซีนเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถตรวจพบส่วนประกอบของโปรตีนหนามได้อีก

แต่ในทางกลับกัน ในกลุ่มผู้ป่วยลองโควิด หรือผู้มีอาการป่วยเรื้อรังหลังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทีมวิจัยยังสามารถตรวจพบโปรตีนหนาม แม้จะเคยติดเชื้อมานานกว่า 1 ปีแล้วก็ตาม

การติดโควิดเสี่ยงป่วย-ตายมากกว่าวัคซีน

ข้อมูลจาก CDC พบว่า ความเสี่ยงการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อโควิด-19 มีสูงกว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถึง 2-8 เท่า

โดยสมาคมโรคหัวใจอเมริกา (American Heart Association) ก็ย้ำว่าวัคซีนโควิด-19 มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง

นอกจากนี้ การติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มความเสี่ยงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ทั้งลิ่มเลือดอุดตันและโรคระบบประสาท เช่น สภาวะอ่อนล้าและภาวะสมองล้า

CDC ยังพบว่าระหว่างเดือนธันวาคม 2020 ถึง กรกฎาคม 2021 อัตราการเสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีน มีสัดส่วนที่ต่ำกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีน และมีงานวิจัยกับกลุ่มตัวอย่าง 520,000 ราย ที่พบว่า ในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนมีโอกาสเสียชีวิตจากปัจจัยต่าง ๆ น้อยกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนถึง 37%

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/claim-myocarditis-covid-vaccines-carries-serious-risk-death-flawed-study/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC10169416/
https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/71/wr/mm7114e1.htm

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร