fbpx

ชี้สัมพันธ์ไทย-จีน ตั้งอยู่บนความแข็งแกร่ง-สร้างอนาคตร่วมกัน

กรุงเทพฯ 3 มิ.ย. – ผลงานวิจัยเรื่อง “Building a Thailand-China Community with a Shared Future and Its Implications for Thailand” ซึ่งดำเนินการโดย ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ตั้งอยู่บนพื้นฐานประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งนำไปสู่การเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันอย่างแท้จริงในโลกยุคใหม่


วันนี้ ศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย จัดงานสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “Building a Thailand-China Community with a Shared Future” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอและเผยแพร่ผลงานวิจัยเรื่อง “Building a Thailand-China Community with a Shared Future and Its Implications for Thailand” โดยมี ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นองค์ปาฐกถา

อาจารย์ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้นำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง “การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันไทย-จีน และความหมายที่มีต่อประเทศไทย” ซึ่งเป็นงานวิจัยที่ได้ทำร่วมกันกับ ดร.กุลนรี นุกิจรังสรรค์ และ ดร.กรองจันทน์ จันทรพาหา แห่งสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสรุปผ่าน 3 เรื่องเล่า ที่ชี้ถึงรากฐานของความสัมพันธ์อันเข้มแข็งระหว่างไทยกับจีน ที่ต่อยอดไปถึงความร่วมมือกันเพื่อประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันในยุคปัจจุบัน


เรื่องเล่าประเด็นแรกที่ อาจารย์ ดร.อาร์ม กล่าวถึง คือ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดลึกซึ้งในระดับสมาชิกพระราชวงศ์ไทย โดยเฉพาะสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งคนจีนรู้จักกันดีในพระนาม “ซือหลินทงกงจู่ 诗琳通公主 ” ทรงปูทางความสัมพันธ์ไทย-จีน ให้ลึกซึ้งเหนียวแน่น เสริมสร้างสังคมที่มีอนาคตร่วมกันอย่างแท้จริง

เรื่องเล่าประเด็นที่ 2 คือ ประวัติศาสตร์การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน จากบันทึกของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่เล่าถึงการเดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ของจีน เพื่อลงนามบันทึกความตกลงร่วมกันในปลายยุคสงครามเย็น (เมื่อ 49 ปีที่แล้ว) เพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล กำลังพักรักษาตัว แต่การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาด้วยท่าทีที่เป็นมิตรของผู้นำทั้งสองจากประเทศที่มีระบบการปกครองแตกต่างกัน ก็ถือเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางการทูตที่เป็นธรรมชาติ เสมือนพี่น้องหวนคืนมาพบกัน

การปฏิสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยและจีน ความรู้สึกใกล้ชิดเช่นนี้ถือเป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งของทั้ง 2 ประเทศ ที่สำคัญจากการสำรวจวิจัยประวัติความสัมพันธ์ไทยและจีน นับตั้งแต่ยุคสุโขทัยของไทย และสมัยราชวงศ์หยวนของจีน พบว่า ในกระแสประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทั้งไทยและจีน ไม่เคยมีประวัติความบาดหมาง หรือมีข้อขัดแย้งใด ๆ เลย ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ตั้งอยู่บนรากฐานประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ฉันมิตรที่แข็งแกร่งมาก


เรื่องเล่าที่ 3 คือ ความร่วมมือด้านดาราศาสตร์ที่สำคัญระหว่างไทยและจีน ที่ปรากฏเป็นข่าวไปทั่วโลก เมื่อคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ของจีน ในโครงการฉางเอ๋อ-7 ได้คัดเลือกอุปกรณ์สำรวจสภาพอวกาศและตรวจวัดรังสีคอสมิก ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติของไทย ให้เป็น 1 ใน 7 อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่จะนำไปติดตั้งกับยานอวกาศฉางเอ๋อ-7 ประเด็นนี้สะท้อนถึงข้อคิดเกี่ยวกับการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของไทย-จีนยุคใหม่ คือ การเชื่อมโยงแนวคิดการพัฒนาของจีน เข้ากับการพัฒนาของไทย ด้วยการส่งเสริมพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียุคใหม่ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยยกระดับทางเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีของประเทศไทย ซึ่งจะนำพาให้ไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และบรรลุเป้าประสงค์ของการพัฒนาร่วมกัน หรือ Common Development ที่เป็นแกนหลักของการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นแนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน

ในโอกาสนี้ ฯพณฯ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีกับงานวิจัยซึ่งดำเนินการโดยศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งย้ำว่า จีนมีแนวคิดในการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ โดยยึดหลักความไว้เนื้อเชื่อใจ เกื้อกูลซึ่งกันและกัน และตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและความเสมอภาค สอดคล้องกับแนวคิดแห่งสันติภาพ เพื่อโลกใหม่ที่มีสันติภาพและก้าวหน้า จีน-ไทยมีผลประโยชน์ร่วมกันในกิจการระหว่างประเทศทั้งในระดับโลกและภูมิภาค การกระชับความสัมพันธ์ ร่วมมือกัน เพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำประโยชน์สูงสุดมาสู่ประเทศและประชาชน

ขณะที่ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตั้งแต่อดีต รัฐบาลไทยและจีนมีความร่วมมือและมีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น ช่วยเหลือและร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี ความสัมพันธ์ที่มีรากฐานที่มั่นคง มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และมีพลังสร้างสรรค์เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างความสัมพันธ์ 2 ประเทศ ที่ยั่งยืนของโลกยุคใหม่.-811(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“วิสุทธิ์” รับ “เกษียร” เป็นคนขับรถตัวเอง เรียกมาด่าแล้ว

“วิสุทธิ์” ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับ “เกษียร” ที่โยง “ต้นอ้อ” ขายวุฒิการศึกษา เป็นคนขับรถตัวเอง เผยเรียกมาด่าแล้วอย่าเชื่อคนง่าย ถูกสาวบางกอกหลอกใช้บัญชีรับโอนเงิน ยืนยันบริสุทธิ์ให้ ตร.สอบได้เต็มที่ไม่มีปกป้อง

“พร้อมพงศ์” ร้อง DSI ให้ตรวจสอบการฮั้วประมูล ก.สาธารณสุข

“พร้อมพงศ์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบการฮั้วประมูลระบบคลาวด์กระทรวงสาธารณสุข 1 พันล้านบาท ชี้มีชื่อกรรมการทับซ้อนกันหลายบริษัท

แจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนรถพังยับ 6 คัน-เจ็บ 7

ตำรวจเร่งสอบปากคำและตรวจประวัติหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนยับ 6 คัน บาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์

ทั่วไทยจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์

ทั่วไทยประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนประชาชนร่วมในพิธีเสกและสมโภชน้ำพระพุทธมนต์

โฆษก มท. เชิญชวนประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดี ร่วมในพิธีเสกและสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ สำหรับงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 7-8 ก.ค.นี้ ณ วัดใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ

ดอดนำลอตเตอรี่ของกลางคืนให้ตำรวจ ก่อนส่งคืน “ตาอ้าย”

คืนแล้ว หวยอลเวง ผอ.รพ.สต. ดอดนำลอตเตอรี่ของกลางคืนให้ตำรวจ เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานก่อนส่งคืน “ตาอ้าย” ด้านตำรวจเรียกสาวใหญ่ อสม. มาพบกับพนักงานสอบสวนวันพรุ่งนี้

“เคียร์ สตาร์เมอร์” สัญญาจะสร้างอังกฤษกลับมาใหม่

นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ ประกาศให้คำมั่นเมื่อวานนี้ว่า เขาจะใช้คะแนนเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งในการสร้างประเทศกลับมาใหม่ โดยเขากล่าวว่า จะนำความร้อนแรงออกจากการเมืองหลังจากที่ประเทศประสบปัญหาความวุ่นวายและความขัดแย้งมานานหลายปี

รถตู้ซิ่งชนเสาไฟฟ้า ทำเสาไฟหักโค่น 17 ต้น ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้

รถตู้ ซิ่งชนเสาไฟฟ้า หน้าปากซอยศรีบูรพา 16 ทำเสาไฟฟ้าหักโค่น 17 ต้น รถยนต์เสียหาย 5 คัน เจ็บ 8 คน ชาวบ้านเขตบางกะปิ กว่า 100 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้