สทนช.เร่ง 6 โครงการน้ำ เสนอ ครม.ใหม่

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สทนช.เกาะติด 6 โครงการสำคัญตามข้อสั่งการนายกฯ บูรณาการเร่งรัดหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เสร็จตามเป้าหมาย เสนอคณะรัฐมนตรีใหม่


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สทนช.ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำติดตามความก้าวหน้าโครงการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี  รองนายกรัฐมนตรี และมติคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำรายงานความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไขเสนอต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ประกอบด้วย  6 โครงการสำคัญ คือ โครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร จังหวัดพิจิตร โครงการฟื้นฟูแผนหลักการพัฒนาหนองหาร จังหวัดสกลนคร โครงการขุดลอกคลองระบายน้ำจากลำน้ำชี โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาว จังหวัดแม่ฮ่องสอน โครงการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และการจัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ

สำหรับโครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร จังหวัดพิจิตร เร่งรัดให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2563 โดยได้มอบหมายกรมทรัพยากรน้ำและกรมชลประทานพิจารณาเสนอขอปรับแผนการดำเนินงานปีงบประมาณ 2562 และ 2563 พร้อมทั้งให้กรมชลประทานเร่งสำรวจออกแบบก่อสร้างประตูระบายน้ำในลำน้ำยมตอนล่าง ถัดจากประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างเพิ่มเติม ในงานศึกษาความเหมาะสมแนวทางการเติมน้ำจากอาคารที่สร้างในแม่น้ำยมให้กับแม่น้ำพิจิตร และกองทัพบกร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พิจารณาจัดทำรายละเอียดประกอบการพิจารณาโครงการที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณา 27 รายการ จากที่ได้รับงบกลางไปแล้ว 43 รายการ โดยเฉพาะรายการที่จะต้องดำเนินการในโครงการฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตร จังหวัดพิจิตร


 ส่วนโครงการฟื้นฟูแผนหลักการพัฒนาหนองหาร จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำป้องกันปัญหาภัยแล้งและสามารถป้องกันอุทกภัยได้ในฤดูฝน โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างจังหวัดสกลนคร กรมชลประทาน และ สทนช. ซึ่งจะจัดทำแผนหลักอย่างเป็นองค์รวม สำหรับใช้เป็นแนวทางให้ส่วนราชการต่าง ๆ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปดำเนินการได้ ประกอบด้วย แผนระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว ครอบคลุมการพัฒนา 10  ปี (พ.ศ.2563-2570) ดำเนินการ 5 ด้าน ได้แก่  การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต การจัดการน้ำท่วมอุทกภัย การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และการบริหารจัดการ รวม 63 โครงการ วงเงิน 5,509 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบ 13 หน่วยงาน ซึ่งขณะนี้แต่ละหน่วยงานกำลังจะจัดทำแผนปฏิบัติของแต่ละปีงบประมาณ และแผนการดำเนินงานที่จะสามารถขับเคลื่อนได้ หลังจากนั้น สทนช.จะนำเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณ แผนงานโครงการและหน่วยปฏิบัติต่อไป

เลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการขุดลอกคลองระบายน้ำจากลำน้ำชีเป็นการก่อสร้างทางผันน้ำชีตอนล่างพร้อมอาคารประกอบตามนโยบายที่ประชุม ครม.สัญจร เมื่อวันที่ 23-24 กรกฎาคม 2561 จังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ดำเนินการโดยกรมชลประทาน วงเงิน  310  ล้านบาท ประกอบด้วย 3 งานหลัก คือ งานขุดลอกคลองผันน้ำและขยายแก้มลิง  6 แห่ง งานก่อสร้างอาคารบังคับน้ำพร้อมอาคารประกอบ  6 แห่ง และงานก่อสร้างระบบกระจายน้ำพร้อมอาคารประกอบ เมื่อดำเนินการเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 3,000 ไร่  มีเส้นทางสัญจรและลำเลียงผลผลิตทางการเกษตร ลดระยะเวลาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 25,000 ไร่ จาก 4 เดือน เหลือไม่เกิน 1 เดือน และสามารถระบายได้ 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะนี้ดำเนินการออกแบบเสร็จอยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และร่วมคิดกับราษฎรและเกษตรกรในพื้นที่ โดยมีแผนจะขอรับงบประมาณตั้งแต่ปี 2563-2565

นอกจากนี้ ยังเร่งรัดกรมชลประทานดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขาว จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้แล้วเสร็จตามแผนงาน ซึ่งได้รับงบประมาณก่อสร้างปี 2562 วงเงิน 85 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขออนุมัติการใช้พื้นที่ป่าจากกรมป่าไม้  ซึ่งคาดว่าคณะอนุกรรมการป่าสงวนแห่งชาติจะตรวจสอบและเห็นชอบได้ภายในเดือนมิถุนายน 2562 ก่อนเสนอคณะกรรมการป่าสงวนแห่งชาติพิจารณาอนุญาต คาดว่าโครงการทั้งหมดจะเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2562 อย่างแน่นอน


ส่วนโครงการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ซึ่ง กนช.มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จัดหาน้ำอุปโภคบริโภคให้ครบทั้ง 169 หมู่บ้าน ให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2562 อย่างไรก็ตาม เมื่อสำรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีหลายพื้นที่มีระบบประปาหมู่บ้านอยู่แล้ว 23 แห่ง ที่เหลือที่ประชุมได้เร่งรัดให้เสร็จตามเป้าหมาย

“สิ่งกีดขวางทางน้ำ กนช.มอบหมายให้ทุกหน่วยงาน เช่น กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำ และให้เร่งรัดดำเนินการแก้ปัญหา โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา จากการสำรวจพบว่ามีสิ่งกีดขวางทางน้ำในเขตภาคใต้ 111 แห่ง ปัจจุบันดำเนินการเสร็จ 74 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 26 แห่ง ที่เหลือ 11 แห่ง จะการดำเนินงานภายในปี 2563 ส่วนภูมิภาคอื่น พบว่า สิ่งกีดขวางทางน้ำในเขตภาคเหนือ 161 แห่ง ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60 แห่ง ในเขตภาคกลาง 115 แห่ง และในเขตภาคตะวันออก  115 แห่ง รวม 451 แห่ง ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการปรับปรุง เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบพิกัดจุดที่ตั้งและข้อมูลบัญชีรายการของอาคาร” เลขาธิการ สทนช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย