กอนช.ระดมพลวางแผนรับมือฤดูฝน

กรุงเทพฯ  13 พ.ค. – กอนช.บูรณาการหน่วยงานด้านน้ำพร้อมรับมือฤดูฝน  คาด พ.ค.-มิ.ย.จะเกิดพายุฤดูร้อน น้ำไหลเข้าอ่างฯ กว่า 4,000 ล้าน ลบ.ม. เพียงพอใช้หากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง พร้อมเตรียมวางแผนรับมือน้ำหลาก น้ำท่วม ดินถล่ม  คาดปีนี้น้ำจะมากกว่าปีที่ผ่านมา และวางมาตรการช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ย้ายเข้าสู่ภาคการเกษตร



นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยว่า การบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 สามารถดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ยกเว้นลุ่มเจ้าพระยาที่ต้องมีการจัดสรรน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาช่วยเหลือมากกว่าแผน 300 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังจากสิ้นฤดูฝนปีนี้แหล่งน้ำสำคัญในพื้นที่ภาคกลางจะมีน้ำมากกว่าปี 2562 โดยช่วงต้นฤดูฝนเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2563 ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุฤดูร้อน โดยมีการประเมินว่าจะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในช่วง 2 เดือนนี้ อีกประมาณ 4,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งน้ำจำนวนนี้จะทำการสำรองไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฝนทิ้งช่วงต่อไป


สำหรับเกษตรกรสามารถเริ่มเตรียมแปลงข้าวนาปีได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนปีนี้ ระหว่างวันที่ 18-21 พฤษภาคม 2563 และจะเกิดภาวะฝนจะทิ้งช่วงประมาณปลายมิถุนายนต่อกรกฎาคม 2563 ซึ่งได้วางแผนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกักเก็บน้ำในช่วงต้นฤดูฝนไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะใช้ในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่กระทบต่อภาคการเกษตรมากนัก เนื่องจากข้าวนาปรังเก็บเกี่ยวทั้งหมดแล้ว ส่วนข้าวนาปีความชื้นสัมพัทธ์ที่ยังคงมีในดินและอากาศ ข้าวจะไม่ขาดแคลนน้ำ และฝนจะเริ่มตกอีกครั้งประมาณในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนจะมีพายุเข้า อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยมีพื้นที่ ๆ ต้องเฝ้าระวั งคือ จันทบุรี ตราด เชียงใหม่ เชียงราย นครพนม อุบลราชธานี และบางส่วนของภาคกลาง ส่วนพื้นที่ภาคใต้ต้องเฝ้าระวังในช่วง 1-2 เดือนนี้ คือ ระนอง ชุมพร พังงา และสุราษฎร์ธานี

“กอนช.เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ฤดูฝนปี 2563 โดยจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยง คาดการณ์น้ำหลาก น้ำท่วม ดินถล่มแจกจ่ายให้แต่ละจังหวัดทราบ เพื่อเตรียมการรับมือล่วงหน้า มีการพิจารณาปรับแผนเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำ จัดทำเกณฑ์ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำ/เขื่อน  ให้หน่วยงานตรวจสอบสภาพอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ สถานีโทรมาตรให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนเข้าหน้าฝน กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการไหล เร่งขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืชทางน้ำ เตรียมพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือพร้อมเข้าช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยซ้ำซาก และประชาสัมพันธ์ไปยังเครือข่ายกรรมการลุ่มน้ำ รวมถึงคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดให้สร้างการรับรู้ต่อประชาชนในเรื่องหลักเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยอย่างตรงกัน” เลขาธิการ สทนช. กล่าว

สำหรับพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ขณะนี้เริ่มมีน้ำไหลเข้าแล้วไม่น้อยกว่า 5 ล้าน ลบ.ม. ผนวกกับการเจรจาขอซื้อน้ำจืดจากบ่อเอกชน ทำให้สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย และจะมีน้ำเพียงพอกับความต้องการไปตลอดจนเข้าสู่ฤดูฝนอย่างแน่นอน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้มีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อขยับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำภาคตะวันออก 11-13 โครงการ ให้ดำเนินการเร็วขึ้น เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด โครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแกด (ลุ่มน้ำวังโตนด) มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจด้านน้ำทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC


ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ส่งผลทำให้แรงงานคืนถิ่นมากขึ้น จึงมีการเตรียมพร้อมแหล่งน้ำพื้นฐานเพื่อให้เพียงพอต่อการทำการเกษตรเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงต้นฤดูฝนไว้แล้ว รวมถึงมีการจัดสรรงบประมาณ 8,000 ล้านบาท เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบจ้างแรงงานคืนถิ่นเหล่านี้ เพื่อสร้างรายได้ลดผลกระทบที่เกิดขึ้น และไม่เป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า