รัฐสภา 29 ก.ย.- “หมอวาโย” เย้ย สว. บอกให้เจอข้างนอก ออกมาไม่เห็น ปมเปิดภาพแฉคดี “ฮั้ว สว.” ยันถูกเบรกวันนี้ มีเปิดต่อ บอกมีโพยไม่ใช่เรื่องผิด แต่เอาข้อมูลซ้อนทับแล้วพบเส้นเงินผิดแน่ ยอมรับไม่ได้คาดหวัง “นายกฯ หนู-ภูมิใจไทย” ลงมาจัดการ แค่หวังไม่ให้แทรกแซงก็พอ
นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่อภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งถูกประท้วง เนื่องจากมีการกล่าวถึงการฮั้ว สว. จนไม่สามารถอภิปรายต่อได้จบ ว่า ตนเคารพประธาน แต่ไม่ได้เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยเท่าไหร่ เพราะยืนยันว่าเนื้อหาที่ตนอภิปรายสอดคล้องและอยู่ในกรอบของญัตติการถามนโยบายรัฐบาล และ สว.ก็ประท้วงตั้งแต่ตนยังพูดไม่จบ รวมถึงประธานก็วินิจฉัยออกมาว่าหากยังยืนยันที่จะอภิปรายต่อ ประธานจะไม่ให้ตนพูดเลย น่าจะเสียหายกว่า จึงขอสรุปเลย อย่างน้อยประชาชนจะได้รู้ว่าข้อสรุปมีอะไรบ้าง เป็นที่น่าเสียดาย เพราะตนยังอภิปรายได้ไม่ถึงครึ่ง ยังเหลือข้อมูลที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อีก จากนี้จะหาวาระที่จะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ต่อไป
เมื่อถามว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้ สว.ต้องลุกขึ้นมารุมประท้วงเป็นเพราะอะไร นพ.วาโย กล่าวว่า วันนี้จริงๆ หากต้องมีคนที่กลัว ตนคิดว่ามีแค่คนเดียวคือตน ตนถูกขู่ในสภา
“ผมกลัว เพราะเป็นผู้ชายตัวเล็กนิดเดียว จริงๆ เดินมาผลักผม ผมก็ล้มแล้ว กังวลพอสมควร เมื่อสักครู่ผมก็ไปรอท่านที่ห้องอาหารมา ท่านก็ไม่ได้มา อุตส่าห์ชวนเพื่อนไปตั้งหลายคน ไปเป็นหมู่คณะน่าจะปลอดภัยกว่า ผมไม่ได้คิดว่าท่านจะกลัวอะไร ยังแปลกใจ เพราะยืนยันตั้งแต่แรกว่ากระบวนการการฮั้ว สว.ไม่ได้ง่าย มันยากมาก ผมตั้งสมมติฐานว่าผมเชื่อว่าไม่มีการฮั้ว และอภิปรายอยู่บนทฤษฎี หลักการทางวิชาการ เมื่อผมสรุปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าท่านทั้งหลายรู้สึกเสียใจหรือไม่ เพราะผมสรุปว่าการมีโพยเป็นแผ่นพยากรณ์นั้นเลข 80 กว่าตัวนั้น เป็นสว.หมดเลย อีกทั้งเราต้องไปตามหาว่าใครเขียนโพยเหล่านั้น เนื่องจากเขารู้อนาคตและรู้เฉลย” นพ.วาโย กล่าว
นพ.วาโย กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่ามีพวกเขาอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ ตนไม่ทราบว่าคนเหล่านั้น คนเลขนั้นเลขนี้เป็นใคร ตนไม่ได้สนใจและเอาข้อมูลที่หาได้นั้นมาวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือทางคณิตศาสตร์เท่านั้น และไม่ได้มีการเปิดโอกาสให้ตนพูดว่าท้ายที่สุดการมีโพยไม่ใช่เรื่องผิด แต่จะผิดก็ต่อเมื่อชั้นของข้อมูลที่เป็นชั้นแรกมันผิดปกติ แล้วไปซ้อนทับกับข้อมูลชั้นที่สอง ชั้นที่สาม และชั้นที่สี่ต่อไปแล้วซ้อนทับกันเป๊ะๆ รวมถึงหากเส้นเงินไปคล้องกับในส่วนนี้ด้วย อีกทั้งการโทรศัพท์ภายใน 1 เดือนย้อนหลังไปซ้อนทับกับ 4 ชั้นนั้น เป็นภาพเดียวกันแล้วประกอบเป็นภาพสามมิติให้เราเห็น ตนคิดว่าตรงนี้เราจึงจะมีหลักฐานที่น่าเชื่อมากขึ้น ตนเป็นคนที่พรรคให้ความสำคัญมากที่สุด ได้เวลาเยอะที่สุด แต่กลับถูกเบรกไม่ให้อภิปรายต่อ ยืนยันว่าข้อมูลชุดนี้จะได้เปิดเผยและมีการใช้งานต่อไป
เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีการซ้อนทับกันชั้นที่สามและชั้นที่สี่ คืออะไร นพ.วาโย กล่าวว่า อย่างที่ตนบอก ตนไม่มีหรอก จะมีได้อย่างไร เส้นทางการเงิน ตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ตนไม่มี แต่ตนได้ยินมาว่าในดีเอสไอมีข้อมูลเหล่านี้แล้วว่ามีข้อมูลทางการเงินและเส้นทางทางโทรศัพท์ที่เขาเอามาซ้อนทับกันแล้ว หรือแม้แต่ในชั้น กกต.เอง พยานหลักฐานต่างๆที่ตนพูดไป กกต.น่าจะมีเยอะกว่าตน ภาพต่างๆ กว่าตนจะหาได้ ตนต้องขอบคุณไอลอว์ ที่เรียกว่าภาพเขาชัดกว่าภาพ กกต. ตนหาข้อมูลได้เองบางส่วน บางส่วนมีประชาชนส่งมาให้บ้าง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลดิบ และสไลด์ที่ตนค้างไว้สุดท้ายที่ตนกำลังโชว์แผ่นใบสีเหลือง คือการเลือก สว.ในช่วงเช้า 10 เลขที่เขาชอบพูดกันว่าตัวเลขเหมือนกัน ตนจำไม่ได้ว่าตนโชว์เลขกลุ่มไหน น่าจะเป็นกลุ่ม 8 ซึ่งเลขที่ซ้ำกันไม่ใช่ 10 ใบ แต่เป็น 21 ใบ เหมือนกันทั้งแผง แต่ความน่าจะเป็นมันน้อยกว่าที่ตนจะถูกรางวัลที่ 1 พร้อมย้ำว่ายังมีข้อมูลอีกเยอะที่ตนใช้ข้อมูลทางคณิตศาสตร์มาจัดข้อมูลต่างๆ
เมื่อถามว่าข้อมูลที่มีโยงไปถึงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นพ.วาโย กล่าวว่า ส่วนตัวที่ตนมี มีไม่ถึง อย่างที่ตนบอกว่า โพย 20 ตัวที่มีนั้น จะมีหลายเวอร์ชัน จะมีแค่เวอร์ชันเดียวไม่ได้ เพราะตอนบ่ายเลือกได้ 5 เบอร์ แต่เขาหวังจริงๆ คือ 6-7 คน ฉะนั้น ต้องมีโพย 2-3 ชุด จึงมีโพยออกมาเป็นจำนวนมาก หรือมีการทิ้งโพยไว้ในห้องน้ำเท่านั้น เป็นภาพหลุดออกมาเยอะแยะ และเมื่อเราทราบว่าใครได้ ก็ได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาเชื่อมโยงกันว่ามีความผิดปกติจริงๆ สิ่งที่ตนต้องการแสดงคือความผิดปกติเหล่านั้น มีน้ำหนักเชิงวิทยาศาสตร์มากจริงๆ ไม่ใช่เพียงการพูดถึงเรื่องความน่าจะเป็น ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลชั้น 1 ที่ประชาชนเข้าถึงได้ แต่ข้อมูลชั้น 2-3 ต้องถามทางนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่คุมดีเอสไอ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าดีเอสไอเอามาให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายหรือไม่ หรือจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งคดีนี้อยู่ในขั้นตอนของ กกต.ซึ่งมี 4 ขั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นที่ 3 แล้ว มีการตั้งคณะกรรมการมาแล้วครึ่งเดือน แต่สำนวนยังกองอยู่ในสำนักเลขาฯ ไม่รู้ว่ารออะไร และขอถามว่าหากท่านเข้าไปดูแลแล้ว จะทำอย่างไรต่อ
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นสัญญา พรรคประชาชนจะกล้าตรวจสอบหรือไม่ นพ.วาโย ยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่หยุดอยู่แล้ว และยอมรับว่าเราเลือกนายกฯ อนุทินมา โดยมีวาระพิเศษคือให้เขามายุบสภา เพราะเรามองว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อให้มีการเลือกตั้ง แล้วได้รัฐบาลที่มีฉันทามติแข็งแรงจากประชาชน มาแก้ปัญหาให้ประชาชน
เมื่อถามว่าเขาจะยุบคดีแทนหรือไม่ นพ.วาโย ย้อนถามว่านี่ธีมพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ แต่ต้องบอกว่ามีมูล เรากังวลจึงต้องมาถาม แต่อย่างน้อยก็มีนโยบายในคำแถลงที่เรารู้สึกว่าเขาพยายามจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ก็เขียนไม่ชัด ซึ่งตนก็เข้าใจ แต่ตัวนายกฯต้องตอบเหมือนที่นายบวรศักดิ์กล่าว และเชื่อว่าวันพรุ่งนี้นายกฯ จะเข้ามาตอบทั้งเรื่องการฮั้ว สว.และเขากระโดง
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะกล้าตรวจสอบหรือไม่ นพ.วาโย กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังขนาดนั้น ว่านายกรัฐมนตรีหรือพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำจะลงไปคุ้ยเอง หรือลงไปเล่นเอง เพราะหากทำเช่นนั้น ตนคิดว่าประหลาด สิ่งที่เราคาดหวังคือทำตามนโยบายคือไม่เข้าไปแทรกแซงหรือเข้าไปยุ่ง เพราะขณะนี้คดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว.-315 -สำนักข่าวไทย