กอนช.ชี้แจงจัดสรรงบแก้แล้งตามความจำเป็นเร่งด่วน

กรุงเทพฯ  13 พ.ค. – กอนช.ชี้แจงจัดสรรงบแก้แล้งตามความจำเป็นเร่งด่วน เน้นช่วยอุปโภค-บริโภค ไม้ผลยืนต้น และเตรียมเก็บกักน้ำต้นฤดูฝนปี 63


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ชี้แจงกรณีสื่อมวลชนเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณแก้ภัยแล้งไม่โปร่งใส ว่า สทนช.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์น้ำต้นทุนคาดการณ์สถานการณ์ เพื่อวางแนวทางบริหารจัดการน้ำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 พบว่า มีพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในเขตการประปา 31 จังหวัด และนอกเขตการประปา 38 จังหวัด และพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร ในเขตชลประทาน 36 จังหวัด และนอกเขตชลประทาน 20 จังหวัด 

นายสมเกียรติ กล่าวว่า เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและทำให้การบริหารจัดการน้ำสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง กอนช. เพื่อบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน โดยได้เสนอรัฐบาลสนับสนุนงบกลางช่วยเหลือภัยแล้งปี 2563 ใน 3 ส่วนหลัก คือ โครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้งปี 2562/2563 มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคเป็นลำดับแรก โดยมอบหมายให้การประปาส่วนภูมิภาคสำรวจพื้นที่เสี่ยงในเขตประปา ส่วนนอกเขตการประปาสำรวจโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งได้จัดทำแผนและมาตรการเสนอ ครม. และ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 อนุมัติงบประมาณ รวม 2,041 โครงการ วงเงิน 3,079 ล้านบาท ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว 1,434 โครงการ วงเงิน 2,280 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 747 โครงการ ประกอบด้วย โครงการขุดเจาะบ่อบาดาล 725 แห่ง จัดหาแหล่งน้ำผิวดิน 2 แห่ง วางท่อน้ำดิบ 11 แห่ง และสถานีสูบน้ำ 9 แห่ง ได้ปริมาณน้ำบาดาลเพิ่ม 38.74 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 123,495 ครัวเรือน เพิ่มปริมาณน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาได้ 60.38 ล้าน ลบ.ม. ผู้ใช้น้ำประปา 58,567 ราย มีน้ำประปาสำรอง 0.20 ล้าน ลบ.ม.


อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจภาคสนามเพิ่มเติม พบว่า นอกจากพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแล้วยังมีพื้นที่นอกเขตชลประทานที่เป็นพื้นที่ปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเสี่ยงขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรง ยืนต้นตาย 0.37 ล้านไร่ ในพื้นที่ 30 จังหวัด จึงได้จัดทำแผนและมาตรการเสนอ ครม. และ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 อนุมัติงบกลางเพื่อจัดทำโครงการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/2563 (เพิ่มเติม) รวม 166 โครงการ วงเงิน 622.43 ล้านบาท ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้ว 132 โครงการ วงเงิน 560.32 ล้านบาท ได้แก่ ขุดเจาะบ่อบาดาล 132 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมพื้นที่เก็บกักน้ำในช่วงปลายฤดูแล้งให้สามารถเก็บกักน้ำในฤดูฝนที่จะถึง กอนช.จึงจัดทำเกณฑ์พิจารณาคัดกรองแผนงาน/โครงการตามลำดับความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนที่มีความพร้อมสามารถจะดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ 2563 ภายใต้โครงการเร่งด่วนเพื่อเก็บกักน้ำฤดูฝนปี 2563 รวม 6,640 โครงการ วงเงิน 3,746 ล้านบาท  ซึ่ง ครม.มีมติอนุมัติในวันเดียวกัน ปัจจุบันได้รับงบประมาณแล้ว 439 โครงการ วงเงิน 3,403 ล้านบาท ดำเนินการแล้ว 75 โครงการ ได้แก่ ฟื้นฟูแหล่งน้ำเดิม 64 แห่ง ก่อสร้างแหล่งน้ำใหม่ 9 แห่ง เชื่อมโยงแหล่งน้ำ 1 แห่ง ก่อสร้างแหล่งน้ำพร้อมระบบ 1 แห่ง เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 24.72 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 69,062 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 31,958 ครัวเรือน

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เสนอขอรับงบประมาณจะต้องจัดทำรายละเอียดโครงการที่สามารถแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างชัดเจน และโครงการที่ผ่านหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะต้องผ่านกระบวนการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งกอนช.จะติดตามตรวจสอบผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย