สทนช.เตรียมเคาะแผนบริหารจัดการลุ่มเจ้าพระยา

กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – สทนช.ขีดเส้นผลศึกษาจัดลำดับความเร่งด่วนพัฒนา 9 แผนหลักจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ก.พ.นี้ เตรียมนำผลศึกษาต่อยอดสู่แผนแม่บทให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทำแผนปฏิบัติการรายโครงการ ส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาเกิดประโยชน์สูงสุด


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สทนช.ได้ดำเนินโครงการศึกษาจัดลำดับความสำคัญ 9 แผนงานบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง 2.โครงการคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก-อ่าวไทย 3.โครงการคลองระบายน้ำควบคู่ถนนวงแหวนรอบที่สาม 4.โครงการปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก 5.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา  6.โครงการบริหารจัดการพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ 7.โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร  8.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน และ 9.โครงการพื้นที่รับน้ำนอง 


ปัจจุบันผลการศึกษาใกล้เสร็จตามแผน ซึ่งคาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการนำผลการศึกษาไปใช้เป็นแผนแม่บทให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นแนวทางและแผนปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้การตัดสินใจดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบถูกต้องตามหลักวิชาการนำไปสู่การแก้ปัญหาและการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในมิติของวิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจและสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการน้ำ  

นายสมเกียรติ กล่าวว่า สำหรับ 9 แผนงานเป็นโครงการขนาดใหญ่และใช้งบประมาณค่อนข้างสูง จึงจำเป็นต้องศึกษาการจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้แผนงานโครงการที่จะดำเนินการแต่ละปีเกิดความคุ้มค่าและเกิดประสิทธิผลสูงสุด ขณะนี้ผลการศึกษาใกล้เสร็จตามแผน โดยผ่านกระบวนการ ทบทวน และวิเคราะห์สภาพปัญหาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต รวมทั้งพิจารณาถึงความสมบูรณ์ขององค์ประกอบแต่ละแผนงาน และเสนอมาตรการเพิ่มเติมให้ครบถ้วน การเปิดเวทีรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโครงการ ที่สำคัญ คือ การรวบรวมข้อมูลโครงการย่อยที่ได้มีการตั้งงบประมาณแล้ว เพื่อให้ทราบถึงสภาพปัจจุบันของโครงการย่อยต่าง ๆ ที่อยู่ในแผนงาน 9 แผนงาน การรวบรวมแผนงานโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กันกับการระบายน้ำของ 9 แผนงานเพื่อให้ทราบถึงภาพรวมการดำเนินโครงการทั้งหมด การเพิ่มเติมรายละเอียดคันกั้นน้ำหรือการสร้างถนนหรือยกระดับถนนขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสภาพการไหลเมื่อมีการไหลผ่านพื้นที่ลุ่มต่ำต่าง ๆ รวมถึงการจำลองเหตุการณ์น้ำท่วมปีต่าง ๆ ร่วมกับการจำลองโครงการของแผนบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยกำหนดกรณีฐานและเพิ่มเติมกรณีศึกษาให้ครอบคลุมทุกความเป็นไปได้ที่เหมาะสม เพื่อให้ทราบถึงประสิทธิผลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยแต่ละกรณีต้องวิเคราะห์ทุกมิติบนหลักเกณฑ์เดียวกัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแผนงานลำดับที่ 7 จากทั้งสิ้น 9 แผน โดยปัจจุบันได้มีการดำเนินการตามแผน (road map) ปี 2562  ออกแบบรายละเอียดคลองระบายน้ำหลาก พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA  การเวนคืนที่ดินและจัดเตรียมพื้นที่เพื่อการก่อสร้าง และเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ ปี 2562 -2566 กรอบวงเงินรวมประมาณ 21,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ขุดคลองระบายน้ำสายใหม่จากบริเวณ อ.บางบาล – อ.บางไทรและอาคารประกอบตามแนวคลอง ระยะทาง 22.4 กม. ระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที  ก่อสร้างถนนบนคันคลองทั้ง 2 ฝั่ง รวมความกว้างเขตคลอง 245 ม. ประตูระบายน้ำในลำน้ำสาขา 2 แห่ง และปลายคลองขุดใหม่ 1 แห่ง และก่อสร้างเขื่อนพระนครศรีอยุธยาในแม่น้ำเจ้าพระยา 


ทั้งนี้ เมื่อโครงการเสร็จจะส่งให้แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถรองรับอัตราการระบายเพิ่มขึ้นได้รวม 2,000 ลบ.ม./วินาที  ช่วยลดพื้นที่น้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจ โบราณสถานสำคัญและพื้นที่ชุมชนเมืองพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นบริเวณที่ลำน้ำแคบที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาการระบายน้ำมากกว่า 800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ก็จะเกิดผลกระทบต่อชุมชนริมตลิ่งได้ อีกทั้งบริเวณเกาะเมืองอยุธยายังเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำป่าสักรวมน้ำทั้ง 2 สาย ทำให้เกิดการชะลอน้ำบริเวณจุดบรรจบทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งอยู่เป็นประจำ ดังนั้น โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปลายคลอง) จะเป็นการลดอัตราการไหลแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยบายพาสน้ำส่วนเกินผ่านช่องลัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

ปิดตำนาน “บิ๊กสุ” นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของไทย ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี นอกจากบทบาททางการทหารแล้ว พล.อ.สุจินดา ยังมีส่วนสำคัญต่อสถานการณ์การเมืองไทย.-สำนักข่าวไทย

จ่อให้ออกจากราชการไว้ก่อน “พญ.” แอบอ้างสั่งยานอนหลับ

10 มิ.ย.- จ่อสั่งแพทย์หญิงคนดัง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีถูกจับกุม แอบอ้างคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ พบก่อนหน้านี้เคยถูกสั่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปมเอี่ยวจีนเทา กรณีตำรวจ ปส. และ อย. เข้าตรวจสอบคลินิกสั่งซื้อยานอนหลับ ก่อนเชื่อมโยงถึงแพทย์หญิงคนดัง พร้อมจับกุมชายรายหนึ่ง ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ยึดของกลางกลุ่มยานอนหลับ บรรจุอยู่ในกล่องลังกว่า 10 กล่อง เบื้องต้นพบเงินหมุนเงินกว่า 80 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 400 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2565 มีผู้เสียหายร้องเรียนแพทย์หญิงคนดังเกี่ยวกับกรณีที่ผู้เสียหายได้นำเงินมามอบให้ เพื่อให้ช่วยต่อวีซ่าการพักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการฟ้องศาลคดีอาญา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี และมีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งทราบว่าสามารถตกลงกับคู่กรณีได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางวินัยยังคงดำเนินต่อ โดยทางโรงพยาบาลตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรงในกรณีนี้ และอยู่ระหว่างการนัดประชุมเพื่อพิจารณาผลวินัยร้ายแรงในเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่มีการจับกุมสั่งซื้อ-ขายยานอนหลับ ในวันนี้ ล่าสุดชุดทำคดีได้ทำหนังสือส่งมายังต้นสังกัดว่า แพทย์หญิงคนดัง ตกเป็นผู้ต้องหาที่ 1 และมีความเห็นว่า หากให้รับราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ซึ่งจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง […]

นายกฯ คุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี

ทำเนียบ 10 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำผลเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา เรียบร้อยดี เผยคุย “ฮุน เซน – ฮุน มาเนต” เห็นตรงยึดสันติวิธี งัดเทคนิค จริงใจเจรจา จนกัมพูชาปรับทัพ บอกรับทราบ “สนธิ” ยื่นหนังสือจี้รัฐบาลรักษาอธิปไตย ลั่นแก้ทีละปม ไม่เหมารวม MOU 44 พร้อมขอบคุณ จนท.ทุกหน่วย ขอ ปชช.มั่นใจไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายผลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ ที่มีความขัดแย้งกัน และปฏิบัติงานร่วมกันหลายภาคส่วน ซึ่งผลออกมาค่อนข้างสงบเรียบร้อยดี โดยในระดับนโยบาย รัฐบาลได้ให้หน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะกองทัพในพื้นที่ ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือทวิภาคี ได้พูดคุยกันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ย้ำว่าทุกหน่วยงานได้มีการพูดคุยกัน ทั้งไทยและกัมพูชา และตนเองก็ได้พูดคุยกับพลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฯฮุน เซน ประธานองคมนตรี ประธานวุฒิสภากัมพูชา ก็มีการประสานงานและเจรจากันเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]