ครบแล้ว สว.อิสระ ล่าชื่อส่งศาล รธน. สั่ง 138 สว. เอี่ยวคดีฮั้วหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

รัฐสภา 6 ส.ค.-ครบแล้ว สว.อิสระ ล่าชื่อยื่นประธานวุฒิฯ ส่งศาล รธน. สั่ง 138 สว. เอี่ยวคดีฮั้วหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือเฉพาะส่วนให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระ “นันทนา” จี้ใช้มาตรฐานเดียวส่งทันที แฉมีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำโทร ล็อบบี้ให้ถอนชื่อ

นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงว่า ขณะนี้กลุ่มสว.อิสระได้ลงชื่อครบตามจำนวน 1 ใน 10 ของสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว เพื่อจะนำ เสนอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ให้ วินิจฉัยให้สมาชิกภาพของ สมาชิกวุฒิสภา 138 คนสิ้นสุดลง ตามมาตรา 111 (7) ประกอบมาตรา 113 โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว. 138 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วน ที่เกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ ไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากผลการสอบสวน ของกรมคดีพิเศษร่วมกับ กรรมการการเลือกตั้ง ในนามคณะอนุกรรมการสืบสวนไต่สวนกลางชุดที่ 26 ได้สรุปสำนวนพร้อมส่งมอบต่อกกต. แล้ว เมื่อ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เหลือพี่พูดถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 คน เป็น สว.ที่อยู่ในตำแหน่ง 138 คน และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายอีก 91 คน ในข้อหาขัดต่อพระราชบัญญัติ ประกอบการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 36 มาตรา 62 และมาตรา 77 และมาตรา 113 ที่ห้าม สว. อยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง


นางสาวนันทนา กล่าวว่า ขณะนี้ อยู่ในกระบวนการของกกต.ที่จะ พิจารณา ส่งเรื่องต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่ก็เป็นที่ทราบว่า กกต. อาจจะต้องใช้เวลานาน ถึง 8 เดือนในการที่จะส่งฟ้อง หรืออาจตรงกับเดือนมีนาคม 2569 จึงถือเป็นความล่าช้า ในกระบวนการ ซึ่งจะส่งผลเสีย ต่อกระบวนการนิติบัญญัติ และกระบวนการยุติธรรมอย่างใหญ่หลวง เพราะหากจะไม่มีการส่งฟ้องสว.เสียงข้างมาก ก็ยังคงให้ความเห็นชอบบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีการใช้กลไกจริยธรรมดำเนินการกับผู้เห็นต่าง ที่มีการร้องเรียนสว.เสียงข้างน้อยหลายราย หากปล่อยให้วุฒิสภามีพฤติการณ์เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของฝ่ายนิติบัญญัติและทำลายความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระทั้งปวง จึงนำรายชื่อสว. 1 ใน 10 ส่งให้ประธานวุฒิสภา และหวังว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับคำร้องของสว.เสียงข้างมาก และดำเนินการส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันที


น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า สว.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการฮั้วยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ ดังนั้นเมื่อมีข้อกังวลจึงขออ้างพยานหลักฐานขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง เรียกสำนวน การสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเด็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการดำเนินการ พรรคการเมืองหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตัวบุคคล ให้ได้รับเลือกเป็นสว. และให้เรียกสำนวน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้รับมอบหมาย และรายงานการสืบสวนสอบสวน คณะที่ 26 ของกรรมการการเลือกตั้ง รวมไปถึงเรียกประธานการสอบสวนและไต่สวนหรือรองประธาน หรือกรรมการ ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากนี้ยังต้องเรียกเส้นทางการเงิน ค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง ในกระบวนการที่ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้ง เมื่อปี 2567 ขณะที่เรื่องนี้ถือเป็นความทุกข์ของ สว. อิสระทั้งหมด เพราะจะมีประชาชนมาซักถาม ว่าเป็น สว. ที่ฮั้วหรือไม่ อีกทั้งยังโดนติฉินนินทา หรือที่เรียกว่าโลกวัชชะ หรือโลกที่ติเตียน ดังนั้น สว.ไม่ต่ำกว่า 30 คน จึงได้รวบรวมรายชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยืนยันว่ายังคงมีความรักความผูกพันกับเพื่อนสว.เพราะหลายคนเป็นคนดีมีฝีมือ จึงอยากทำให้คดีนี้คลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น เร่งดำเนินคดีให้เสร็จเรียบร้อย ไม่มีการดึงหรือถ่วงเวลา จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมและทำให้ แล้วทุกคน จะได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่จริง สว. ที่เหลือจะสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ นางสาวนันทนากล่าวว่า ถ้าเป็นการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยศาลรัฐธรรมนูญการทำหน้าที่ของ สว. ในสภาที่เหลือก็สามารถดำเนินการต่อไปได้เพราะถือว่าเป็นคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หลังจากที่มีคำวินิจฉัยว่าให้พ้นจากตำแหน่งจริงจึงมีการดำเนินการเลื่อนสำรองขึ้นมา เพื่อให้เป็นองค์ประชุม

น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า สว.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการฮั้วยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบ ดังนั้นเมื่อมีข้อกังวลจึงขออ้างพยานหลักฐานขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง เรียกสำนวน การสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเด็นกระบวนการที่เกี่ยวกับการดำเนินการ พรรคการเมืองหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตัวบุคคล ให้ได้รับเลือกเป็นสว. และให้เรียกสำนวน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้รับมอบหมาย และรายงานการสืบสวนสอบสวน คณะที่ 26 ของกรรมการการเลือกตั้ง รวมไปถึงเรียกประธานการสอบสวนและไต่สวนหรือรองประธาน หรือกรรมการ ที่ได้รับมอบหมาย นอกจากนี้ยังต้องเรียกเส้นทางการเงิน ค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง ในกระบวนการที่ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงการเลือกตั้ง เมื่อปี 2567 ขณะที่เรื่องนี้ถือเป็นความทุกข์ของ สว. อิสระทั้งหมด เพราะจะมีประชาชนมาซักถาม ว่าเป็นสว. ที่ฮั้วหรือไม่ อีกทั้งยังโดนติฉินนินทา หรือที่เรียกว่าโลกวัชชะ หรือโลกที่ติเตียน ดังนั้น สว.ไม่ต่ำกว่า 30 คน จึงได้รวบรวมรายชื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยืนยันว่ายังคงมีความรักความผูกพันกับเพื่อนสว.เพราะหลายคนเป็นคนดีมีฝีมือ จึงอยากทำให้คดีนี้คลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น เร่งดำเนินคดีให้เสร็จเรียบร้อย ไม่มีการดึงหรือถ่วงเวลา จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมและทำให้ แล้วทุกคน จะได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้


เมื่อถามว่ามั่นใจในหลักฐานที่มี ว่าจะสามารถ ส่งผลให้ สว. ทั้ง 138 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ ใช่หรือไม่ นาวาตรีวุฒิพงศ์ กล่าวว่า มีการขัดขวาง มีการโทรมาสอบถามทุกวันว่าอยากได้อะไร แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือให้ความยุติธรรมกับประชาชน ความยุติธรรมของเสียงข้างน้อยและเสียงข้างน้อยมีความจำเป็นอย่างน้อยเราเคารพเสียงข้างมาก แต่เสียงข้างน้อยย่อมได้รับความคุ้มครองและเคารพเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าหาก สว.ทั้ง 138 คน พ้นจากตำแหน่งจะทำให้การเลือกสวเป็นโมฆะหรือไม่ นาวาตรีวุฒิพงศ์กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะต่อเมื่อสมาชิก วุฒิสภาเหลือไม่ครบ 100 คน เลื่อนสำรองแล้วและยังไม่ครบ 100 แต่หากเกิน 100 คนอยู่ก็ยังใช้ได้และอยู่ในรัฐธรรมนูญเพราะมีการคำนวณเผื่อไว้แล้ว

น.ส.นันทนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อหาที่แจ้งในคำร้อง คือมาตรา 113 สมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ยอมตนอยู่ภายใต้พรรคการเมือง แต่หลักฐานที่ กกต.และ DSI ร่วมกันถูกตรวจสอบและแจ้งข้อกล่าวหาชี้ชัดไปว่า สว. ที่ได้เข้ามา 138 คนนั้นมีความสัมพันธ์ และเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าหลักฐานที่ศาลจะเรียกมาจาก DSI และกกต.น่าจะชัดเจนและหนักแน่นพอที่จะดำเนินการเอาผิด กับผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการนี้

“แต่ถ้าปล่อยให้ไปถึงมีนาคมปีหน้าบุคลากรในองค์กรอิสระจะถูกคัดเลือกจาก สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และประชาชนก็จะต้องกังขาในผลการวินิจฉัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นจากนี้ไปจึงร้องขอต่อศาล ให้ศาลมีคำสั่งให้สว.เสียงข้างมากหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยชั่วคราว จนกว่าคำวินิจฉัยของศาลจะออกมา” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้มีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำ และมีปฏิบัติการโทรล็อบบี้กันถึงเช้า หากทราบว่ามีใครอยู่ในรายชื่อก็จะโทรรังควานให้ถอนชื่อออก ตอนนี้จึงกังวลใจมาก จึงได้ย้ำว่าอยากให้ ประธานวุฒิสภารับหนังสือและส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญทันทีและเมื่อหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วจะสามารถเปิดเผยรายชื่อได้ นี่เป็นปฏิบัติการทำลายล้างคนที่เห็นต่าง พร้อมยกตัวอย่าง นาวาตรีวุฒิพงศ์เกือบจะชกหน้ากัน แต่มีสว.คนอื่นมาขวางไว้ ส่วนตนเองก็โดนร้องเรียนเรื่องจริยธรรม ดังนั้นจึงต้องปกป้องรายชื่อที่ร่วมลงนามเพื่อส่งสารรัฐธรรมนูญให้ถึงที่สุด.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 22 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ (22 ก.ย. 68) คาดว่าในช่วงวันที่ […]

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]