รัฐสภา 6 ส.ค.-“ปกรณ์วุฒิ” จี้ “วันนอร์” จัดการ กรรมการบางคนในกลุ่มประธาน-รองประธานสภาฯ ใช้ตำแหน่งหาผลประโยชน์ เผยมีคดีฉ้อโกงเสียหาย 20-30 ล้านแล้ว ขณะที่ ปธ.สภาฯ บอกส่งรายชื่อมาเลยเป็นใคร ลั่นสภาต้องโปร่งใส ต้องตรวจสอบคนอื่น แต่ต้องตรวจสอบตัวเองด้วย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน หารือว่าเกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคคลในวงงานสภาผู้แทนราษฎร ตนคิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหม่ เพราะในสมัยประชุมที่ผ่านมาเราก็ประสบปัญหาว่าตำแหน่งต่างๆที่มีการแต่งตั้งในกรรมาธิการ อาจจะมีหลายคนที่แอบแฝงเข้ามาเพื่อนำตำแหน่งไปหาผลประโยชน์ ตนเข้าใจว่าในสภาฯชุดนี้ ในหลายคณะกรรมาธิการก็แก้ปัญหาด้วยการที่เวลากรรมาธิการคนใดเป็นผู้แต่งตั้งกรรมาธิการคนนั้นเข้ามา หากมีปัญหาก็จะรู้ว่าต้องรับผิดชอบอย่างไร และจัดการปัญหาได้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า เข้าใจว่าทั้งประธานและรองประธานสภาฯมีภารกิจหลายอย่าง ที่จะเป็นต้องตั้งกรรมการและอนุกรรมการ มาขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ ในสภาฯ ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนมาว่า มีกรรมการบางคนในกลุ่มของประธานและรองประธานสภาฯ นำตำแหน่งไปหาผลประโยชน์ และขณะนี้ก็มีคดีเป็นคดีฉ้อโกงที่วงเงินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 – 30 ล้านบาท
“ผมคิดว่าพรุ่งนี้ (7 ส.ค.)เราน่าจะมีประธานและรองประธานสภาฯ ครบทั้ง 3 ท่าน จึงอยากให้ประธานสภาฯ นำรายชื่อกรรมการและอนุกรรมการทั้งหมดมาทบ ทวนอีกครั้ง และมาตรวจสอบว่ารายชื่อต่างๆ ถูกเสอนมาโดยใคร และมีปัญหาในเรื่องประวัติหรือเรื่องการนำตำแหน่งไปหาผลประโยชน์หรือไม่ ส่วนที่ผมได้รับร้องเรียนผมก็ยินดีให้ข้อมูลกับประธานฯ ถึงรายชื่อนั้น จะได้ทำการตรวจสอบต่อไป และหวังว่าพรุ่งนี้ เมื่อมีประธานและรองประธานสภาฯทั้ง3 ท่านแล้วจะได้ทำงานขับเคลื่อนสภาฯด้วยความเข้มข้นให้ผู้ที่เข้ามารับหน้าที่ขับเคลื่อนงานต่างๆมีคุณภาพทำงานอย่างสุจริตแท้จริง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ขอให้เอารายชื่อมาให้ตน ถ้าทราบเกี่ยวกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาหรือกรรมการต่างๆในชุดของประธาน รองประธานสภา หรือต่อไปอาจจะเป็นเรื่องของที่ปรึกษาหรือฝ่ายคณะทำงานของสภาหรือกรรมาธิการด้วยก็ดี เพราะเราต้องการให้สภาของเรามีความโปร่งใสเพราะเราต้องการตรวจสอบฝ่ายอื่น เพราะฉะนั้นฝ่ายเราต้องมีการตรวจสอบด้วย บางครั้งก็มีการมาแสวงหาผลประโยชน์โดยที่ผู้แต่งตั้งอาจจะไม่ทราบก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันสอดส่องดูแลด้วย ถ้า ส.ส. คนอื่นมีข้อมูลว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์ในการแต่งตั้ง หรือการทำงานในสภาของเรา ไม่ว่าจะเป็นคณะทำงานชุดไหนก็แล้วแต่ ขอให้แจ้งเป็นการภายในมายังตนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ได้ เรายินดีที่จะตรวจสอบและต้องดำเนินการที่จะไม่ให้มีการแสวงผลประโยชน์ในสภาต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย