ชัยภูมิ 4มิ.ย.-ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สอบข้อเท็จจริง เหตุมีผู้โพสต์พบปลาร้ามีลักษณะคล้ายหางงู คาดรู้ผลในสัปดาห์นี้ ย้ำภาพรวมปลาร้าในจังหวัดยังดีตามมาตราฐาน
ความคืบหน้าหลัง ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์ในเฟสบุ๊คที่มีเนื้อหาว่า ได้ไปซื้อปลาร้าที่แบ่งขายใส่ถุงเป็นกิโลกรัม ที่มีขายตามตลาดสดแห่งหนึ่งในจ.ชัยภูมิ เป็นประจำ หลังจากนำมาประกอบอาหาร เพื่อที่จะนำปลาร้าที่ซื้อมาดังกล่าวมาตำส้มตำรับประทานกับญาติๆภายในครอบครัวกัน แต่ครั้งนี้ถึงกับผงะแทบอ้วกแตกกันทั้งครอบครัวขึ้นมาทันที เมื่อไปพบชิ้นส่วนของปลาร้า ที่มีลักษณะคล้าย “หางงู” ติดปะปนในถุงปลาร้าดังกล่าวมาด้วย จึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน และนำไปโพสต์ภาพชิ้นปลาร้าที่มีชิ้นส่วนคล้ายหางงูดังกล่าวลงในเฟสบุ๊ค เพื่ออยากให้เข้ามาตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย ว่าชิ้นส่วนที่พบในปลาร้าดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเนื้อปลา ที่เกิดขึ้นในปลาร้าที่เป็นอาหารพื้นบ้านใกล้ตัวของชีวิตประจำวัน
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ หลังทราบเรื่องพบชิ้นส่วนคล้ายหางงูปนมาในปลาร้า ได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ จัดชุดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบขอดูชิ้นส่วนปลาร้าคล้ายหางงูที่พบอยู่บ้านหลังหนึ่ง ที่ บ้านหนองบัวขาว ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งวันนี้ไม่อยู่บ้านไปทำธุระที่ต่างจังหวัด แต่เบื้องต้นทางชุดจนท.สาธารณสุขพบกับภรรยาของผู้ร้องรายนี้พร้อมญาติบ้านใกล้เคียงกันทั้งหมดแล้ว เพื่อขอรับทราบข้อมูลแหล่งที่ไปซื้อปลาร้าดังกล่าวมาและต้นตอแหล่งผลิตทั้งหมด เพื่อจะได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตสุ่มตรวจ หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ว่ายังมีชิ้นส่วนอื่นเจือปนที่ไม่ใช่ชิ้นส่วนของปลา หรือปลาร้า ที่ถูกต้องตามสุขอานามัยเพิ่มเติมยืนยันอีกครั้งต่อไปซึ่งคาดว่าจะสามารถรู้ผลได้ไม่เกินสัปดาห์นี้ ว่าชิ้นส่วนที่พบและแหล่งที่มาผลิตปลาร้าจำหน่ายดังกล่าวถูกต้องตามหลักอนามัยที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบกฎหมายต่อไปในครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นในส่วนของปลาร้าอื่นๆที่มีจำหน่ายที่ในจ.ชัยภูมิ ที่พบขายทั่วไปตามย่านต่างๆในตลาดสดทางจังหวัดชัยภูมิ ก็ได้ออกตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพต่อเนื่องเป็นอย่างดีมาตลอด และผู้บริโภคยังสามารถหาเลือกซื้อบริโภคได้ตามปกติ และไม่อยากให้เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าบริโภคปลาร้ากัน เพียงแต่การซื้อมาบริโภคในแต่ละครั้งต้องตรวจดูก่อนบริโภค หากพบสิ่งผิดปกติ มีชิ้นส่วนหรือมีสิ่งปะปนมาก็ควรหยุดบริโภคไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย และรีบแจ้งจนท.ที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ช่วยกันตรวจสอบมาตรฐานสินค้า ที่เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าสินค้ามีคุณภาพมีมาตรฐานรับรอง มีสัญลักษณ์มีฉลากติดรับรอง อย.มีชื่อผู้ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ ที่มาของชื่อผู้ผลิตที่จะต้องพร้อมรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า ในการพลิกวิกฤตมาเป็นโอกาสให้ได้รับความนิยมมากขึ้น และก็จะเป็นอีกจุดที่ผู้บริโภคจะหาเลือกซื้อและสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริโภคมากขึ้นด้วย.-สำนักข่าวไทย
