เอกชนมองสงครามการค้าไทยจะได้มากกว่าเสีย

กรุงเทพฯ 12 พ.ค.- สงครามการค้าจีน-สหรัฐรอบใหม่ เอกชนมองว่า ไทยจะได้รับผลบวกมากกว่าลบ แนะรัฐบาลดึงดูดการลงทุน พร้อมเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าเช่น อินเดีย พร้อมส่งสัญญาณถึงภาคการเมืองควรเร่งจัดตั้งรัฐบาล


นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ว่า มองผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในทางบวก ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์มาก เนื่องจากนักธุรกิจจีนสหรัฐต่างประหนักในผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ล่าสุดนักลงทุนจากจีนเข้ามายื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการรส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยยังมีโอกาสในการเป็นฐานการผลิตสินค้าส่งออกได้ทั้งกลุ่มตลาดอาเซียนและตลาดสหรัฐได้ บริษัทจากสหรัฐซึ่งมีโรงงานทั้งในประเทศจีนและไทยกำลังพิจารณาโอกาสที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศไทยเพื่อส่งออกไปยังจีนและสหรัฐได้ ด้านผู้ประกอบการไทยตื่นตัวไม่นิ่งนอนใจ และให้ความสนใจที่จะหาลู่ทางให้ประเทศไทยเป็นตัวกลางในการส่งออกสินค้าไปได้ทั้งภูมิภาคอาเซียน จีน และส่งออกไปสหรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังไม่ให้การย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจากจีนและสหรัฐไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านของไทยแทน อีกส่วนคือ บริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในจีนขณะนี้ทยอยออกมาลงทุนในอาเซี่ยนและประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าไม่มั่นใจว่า การผลิตในจีนจะส่งออกไปสหรัฐได้หรือไม่ 

สินค้ากลุ่มที่จะได้รับผลดีส่งออกเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตได้แก่ สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะนี้อยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยง แต่ถ้าหากย้ายเข้ามาผลิตในประเทศไทยได้จะได้ผลบวก ขณะเดียวกันยังมีสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมีการเข้ามาผลิตในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐบาลไทยช่วยอำนวยความสะดวกในการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจีนและสหรัฐที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย และช่วยให้เกิดการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นด้วย


“ผมมองในมุมบวกมากกว่า  ประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก ด้านท่องเที่ยวต่างชาติก็ต้องการเข้ามาทำธุรกิจด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเมืองก็ขอให้เดินหน้าไปแต่ขอให้ข้าราชการนักธุรกิจทำงานอย่างเข้มแข็ง ทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ โดยมองเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตบวกลบที่ร้อยละ 4 ส่วนส่งออกปีนี้โตประมาณร้อยละ 4-6 ตามกรอบที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันประเมินไว้” นายกลินท์ กล่าว

นายกลินท์ มองการตั้งรัฐบาลใหม่ว่า การตั้งรัฐบาลคงจะเสร็จประมาณ 1 เดือนข้างหน้า แต่ที่สำคัญขอให้ความสำคัญประเทศชาติประชาชนเป็นสำคัญ เพราะประเทศไทยไม่ใช่ของเล่นของใคร ผู้ที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยและเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยก็จะมีความสุข ผู้ประกอบธุรกิจได้เงิน นักท่องเที่ยวมีความสุข คนไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ทุกอย่างขยับสู่ดิจิทัลมากขึ้น ด้านการศึกษาเริ่มปรับปรุงดีขึ้น ในอนาคตค่อยเป็นค่อยไป และเรื่องความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยและช่วยกันเป็นเรื่องสำคัญ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สงครามการค้าจีน-สหรัฐกระทบกับเศรษฐกิจโลกด้วย สำหรับประเทศไทยผลิตภัณฑ์ส่งออกใดยังพึ่งพิงการส่งออกไป 2 ประเทศดังกล่าว ก็จะกระทบตามไปด้วย แต่ถ้าอุตสาหกรรมที่ไทยเป็นคู่แข่งกับจีน จะได้รับผลกระทบในทางบวกมากกว่า ส่วนภาพรวมผลกระทบทั้งหมดกับอุตสาหกรรมไทย ส.อ.ท.อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะมีอุตสาหกรรมใดบ้างที่สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าที่ส่งออกมาจากประเทศจีน


สำหรับสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลนั้น ได้แก่ ช่วยผลักดันการค้าประเทศอื่นๆ มากขึ้น โดยเดินหน้าเจรจาเดินหน้าข้อตกลงเขตเสรีการค้าหรือ FTA กับประเทศคู่ค้าต่างๆ มากขึ้น เช่น  FTA ไทย-อินเดีย เป็นต้น และท่ามกลางเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวลง และจีนกับสหรัฐยังทำสงครามการค้าสลับกับการเจรจากันไปอย่างนี้ ตราบใดที่สหรัฐยังคงขาดดุลการค้ากับสหรัฐแม้จะพยายามกีดกันการค้ากับจีนแล้วก็ตาม ดังนั้นจึงคาดว่าการส่งออกของไทยปีนี้จะโตได้ในกรอบร้อยละ 3-5 

“วันนี้เป็นโอกาสที่จะส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย อยากให้เร่งดำเนินการ ชักจูงการลงทุนจากประเทศอื่นๆ ที่ทำการค้ากับจีนและสหรัฐ ให้เข้ามาขยายฐานการผลิตเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เช่น นักลงทุนจากญี่ปุ่น ยุโรป อินเดียและจีน แต่ต้องวางมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ”นายสุพันธุ์ กล่าว

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องการให้ฝ่ายการเมืองมีการเจรจาตกลงกันอย่างรวดเร็ว และจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะจะช่วยให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนและเศรษฐกิจดีขึ้น สำหรับภาพรวมการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ กกร.คาดการณ์ไว้ 3.7-4 ซึ่งกกร.จะทบทวนตัวเลขอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้ภายหลังได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย