ชลบุรี 30 เม.ย.- “พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ” ลงพื้นที่ชลบุรีเกาะติดคดีอุกอาจจี้ร้านทองกลางห้างบิ๊กซีสัตหีบเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ต้องหายอมมอบตัวและถูกคุมไปทำแผนรับสารภาพ ส่วนของกลางได้คืนครบ 109 บาท
กรณีชายชุดดำสูงประมาณ 165-175 ซม. อำพรางใบหน้าและใช้อาวุธปืนบุกเข้าชิงทรัพย์ร้านทองสุพัตราเยาวราช ห้างบิ๊กซีสาขาสัตหีบ หมู่ 8 บ้านเตาถ่าน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ช่วงสายของวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ทองคำรูปพรรณหลบหนีไปรวมน้ำหนัก 109 บาท มูลค่า 2.1 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบจนแน่ชัดและขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนายศรชัย นิลสนธิ อายุ 34 ปี ในข้อหากระทำผิดฐานชิงทรัพย์โดยการใช้ผ้าปกคลุมใบหน้าและสวมหมวกเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันสมควร
เมื่อเวลา 10.00 น. (30 เม.ย.) ที่ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.ท. จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แถลงความคืบหน้าคดีว่า หลังจากก่อเหตุนายศรชัย หนีไปกบดานที่จังหวัดพิจิตร และทนแรงกดดันไม่ไหวของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว จึงขอเข้ามอบตัวที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนของกลางได้คืนมาครบถ้วน ซึ่งนายศรชัย นำไปซุกซ่อนภายในบ้านพักเอื้ออาทรในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 21 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5บาท จำนวน 6 เส้น และสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 32 เส้น รวม 49 เส้น น้ำหนัก 109 บาท นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายศรชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
การสอบสวนเบื้องต้นนายศรชัย อ้างว่ามีปัญหาหนี้สิน และต้องการเงินไปรักษาแม่ที่พิจิตร ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนปลอม แบบบีบีกันซื้อมาจากตลาดนัดในพัทยา ต่อมานายศรชัย เห็นข่าวตัวเองก่อเหตุทางทีวีจึงรับสารภาพกับญาติและขอให้พาเข้ามอบตัว
ด้านเจ้าของร้านทองได้มอบช่อดอกไม้ขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย