นครรราชสีมา 16 เม.ย.- คืบหน้าคดีชิงทอง แม้ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ทอง 21 เส้นยังล่องหน โดยผู้ต้องหาอ้างทอง 11 เส้น เพื่อนจะช่วยขาย โดยให้เงินก่อนแค่ 2 หมื่น แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน และไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ ขณะที่ตำรวจย้ำคนที่คิดชิงทอง ทำไปก็ไม่รอดถูกจับได้ทุกราย
หลังตำรวจสืบสวนภูธรภาค 3 ตามรวบตัว นายกิตติพงษ์ หรือเบส อายุ 28 ปี คนร้ายจี้ชิงทองน้ำหนัก 153 บาท มูลค่า 5 ล้านบาท จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างโลตัส สาขานครราชสีมา หลังนำสร้อยทอง 28 เส้น ไปฝังดินไว้ที่บ้านพักภรรยา ต.บ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนหอบสร้อยทองอีกหลายเส้นหลบหนีไปกบดานกับเพื่อนที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตำรวจใช้เวลา 62 ชั่วโมง ไล่ล่าตามจับกุมได้สำเร็จ โดยสืบสวนแกะรอยจากหลักฐาน นายกิตติพงษ์ โอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นในมือถือ 300 บาท ให้เพื่อนที่ชลบุรี จึงติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
โดยผู้ต้องหาให้การว่า นำสร้อยคอทองคำ 11 เส้น ไปฝากขายให้กับเพื่อนที่ไว้ใจกัน ซึ่งตนไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนคนนี้ ทราบชื่อว่า ก้องเกียรติ เคยกินเที่ยวด้วยกัน เคยขายรถให้กัน เพื่อนเอาทองไป 11 เส้น บอกว่าจะช่วยขายทองให้แต่ให้เงินมาก่อนแค่ 20,000 บาท หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมได้เสียก่อน
ต่อมาตำรวจควบคุมตัวนายเบส สวมเสื้อผ้าชุดที่ใส่ขณะประกอบเหตุ มีหมวกไอ้โม่ง กางเกงยีนส์ เสื้อแขนยาวลายเทาดำ กระเป๋าสะพาย ถืออาวุธปืนปลอม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทองเยาวชนกรุงเทพ ชั้น 1 ห้างโลตัสโคราช ท่ามกลางประชาชนมุงดูจำนวนมาก ใช้เวลาทำแผนแค่ 3 นาที นายเบสมีสีหน้าเศร้าสลด สำนึกผิด พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษพนักงานร้านทอง ก่อนนำตัวกลับไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองนครราชสีมา โดยไม่มีเหตุชุลมุนวุ่นวาย
ด้าน น.ส.ฐิติรัตน์ ผู้จัดการร้านทองที่เกิดเหตุ บอกว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานรวดเร็วมาก จับกุมคนร้ายได้รวดเร็ว ส่วนของกลางยังไม่ชัดเจนว่า ยังหลงเหลืออีกกี่เส้น สรุปที่ถูกจี้ไปทั้งหมด 51 เส้น น้ำหนัก 153 บาท มูลค่า 5 ล้านกว่าบาท ฝากถึงโจรจี้ร้านทอง คนที่คิดจะทำ เพราะถึงอย่างไรก็ไปไม่รอด ถูกจับทุกรายอย่าทำเลย ร่างกายครบ 32 ทำมาหากินดีกว่า
สรุปของกลางสร้อยคอทองคำถูกจี้ไป 51 เส้น (น้ำหนักเส้นละ 3 บาท มูลค่า 5 ล้านบาท) ตอนนี้ติดตามมาได้แล้ว 30 เส้น (ซ่อนฝังดิน 28 เส้น ตกหล่นหายมีคนเก็บได้ 2 เส้น) ยังตามหาไม่เจออีก 21 เส้น ประกอบด้วย ให้เพื่อนนำไปขาย 2 เส้น ให้เพื่อน (ก้องเกียรติ) ฝากขาย 11 เส้น และสูญหายไม่รู้อยู่ไหน 8 เส้น
ส่วนการดำเนินคดีตอนนี้นอกจาก นายเบส ถูกแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยมอมหน้า (ปลอมหน้าเป็นผู้อื่น) หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมแล้ว ยังดำเนินคดีกับภรรยาของนายเบส อายุ 27 ปี ฐานสนับสนุนกระทำความผิด และผู้เกี่ยวข้องอื่นที่นำทองไปขายและผู้รับซื้อทอง ฐานรับของโจรอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย