รวบทิดสึกใหม่บุกจี้ร้านทอง กรรโชกทรัพย์ 1 หมื่นบาท

ปทุมธานี 7 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ตามสืบจากกล้องวงจรปิด รวบทิดสึกใหม่ สลัดผ้าเหลืองได้ไม่นาน จนตรอกควงมีดบุกจี้ร้านทอง ขอเงิน 1 หมื่นบาท แต่หนีได้ไม่นาน ตำรวจรวบตัวได้หลังก่อเหตุแค่ 3 ชั่วโมง


ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายถือมีดบุกเข้าร้านทอง พยายามชิงเงิน 10,000 บาท ภายในห้างทองแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง

ในที่เกิดเหตุพบ น.ส.นงคราญ ปัดนา อายุ 39 ปี พนักงานในร้าน บอกว่า ขณะตนเองยืนอยู่ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สูงประมาณ 150 ซม. อายุประมาณ 45-50 ปี สวมเสื้อสีเทา กางเกงขายาวสีน้ำเงิน สวมแมสก์ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนร้ายก็ถือมือยาวประมาณ 1 ฟุต เข้ามาในร้านและเอามาวางที่กระจก โดยบอกว่าให้เอาเงินมา 10,000 บาท ห้ามเสียงดัง และห้ามแจ้งตำรวจ จากนั้นน้องอีกคนก็บอกว่า ตนเป็นเพียงพนักงาน และขอเข้าไปหยิบเงินก่อน แล้วเสียงสัญญาณก็ดังขึ้น พร้อมมีเสียงตะโกนว่าตำรวจมา ทำให้คนร้ายตกใจวิ่งหนีไป


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง ได้ติดตามกล้องวงปิดและสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้วว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นต้องตามจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะเกรงว่าจะไปทำกับร้านทองอื่นๆ อีก และได้แจ้งข้อหาพยายามชิงทรัพย์ พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นๆ ทางพนักงานสอบสวนจะแจ้งเพิ่มเติม

ขณะที่นายสมพร เอี่ยมมา อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนเองบวชได้ 1 พรรษา และสึกมาได้เพียง 3 วัน ที่ก่อเหตุเพราะต้องการเงินไปลงทุนซื้อส้มและนำไปขายที่ภาคใต้ ซึ่งตนบอกกับพนักงานว่าให้เอาเงินมา 10,000 บาท และจะเอามาคืนวันหลัง พร้อมทั้งห้ามแจ้งตำรวจ แต่พนักงานไม่ให้ และมีคนตะโกนว่าตำรวจมา ตนจึงหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้าน กลัวว่าจะถูกตำรวจจับเหมือนกัน ซึ่งตนทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง