ถกหาทางออกวิกฤติฝุ่นพิษ ยังไม่หายจากเมืองกรุง

ลาดกระบัง 14 มี.ค.-สจล.ถกประเด็นทางออกวิกฤติฝุ่นPM 2.5 อย่างยั่งยืน เสนอรัฐห้ามรถปล่อยควันดำวิ่งในกรุงเทพฯชั้นใน จัดเก็บภาษีฝุ่นหยุดมลพิษ ชี้ปัญหาฝุ่นในเมืองกรุงยังเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะป้ายรถเมล์ ใต้สถานีรถไฟฟ้า พร้อมออกแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่น-ฟังก์ชั่นเซ็นเซอร์ตรวจวัดปริมาณฝุ่น-พัดลมระบายอากาศ เตรียมทดลองใช้เร็วๆนี้


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับ สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) คณะแพทยศาสตร์ สจล.และสถาบันนวัตกรรมชุมชนอัจฉริยะ (ISCI) จัดเสวนาทางออกปัญหาวิกฤติฝุ่นประเทศไทย เพื่อเปิดโรดแมปการคาดการณ์วิกฤติฝุ่นในรอบปี พ.ศ.2532 – 2563 เฉพาะจุดและโครงการออกแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่น พร้อมถกประเด็นความร้ายแรงของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ส่งผลต่อสุขภาพเด็กและเยาวชนระยะยาว โดยมีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล.,นายประพัทธ์พงษ์ อุปลา ผอ.สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) และนพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ สจล. ร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นละอองพิษ PM2.5 


โดยเสนอให้ภาครัฐคุมเข้มเอาจริงกับรถที่ปล่อยควันดำห้ามเข้ามาวิ่งในเขตพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน เน้นรณรงค์ลดกิจกรรมก่อฝุ่น ลดยานพาหนะก่อฝุ่น เสนอรัฐจัดเก็บภาษีฝุ่นหยุดมลพิษ จากสาเหตุที่มาจากการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองใหญ่ การก่อสร้าง ที่ก่อให้เกิดฝุ่น 


นอกจากนี้ สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) สจล.ได้ออกแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็กในเขตพื้นที่เมือง เตรียมเสนอรัฐบาลและ กทม.เร็วๆนี้ โดยการติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่นและจอมอนิ เตอร์รายงานสภาพอากาศ พร้อมติดตั้งพัดลมไล่ฝุ่นเพื่อแจ้งเตือนประชาชนตามป้ายรถเมล์ กว่า 5,000 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ซึ่งการลงพื้นที่ตรวจวัดค่าฝุ่น PM.2.5 ของทีมวิจัย สจล.พบว่า ป้ายรถเมล์และใต้สถานีรถไฟฟ้าสี่แยกไฟแดงบริเวณที่มีรถหนาแน่น โดยเฉพาะถนนสีลม สยามสแควร์ พญาไท และสะพานควาย ค่าฝุ่นยังเกินค่ามาตรฐาน เป็นอันตรายกับประชาชน โดยจะเริ่มทดลองใช้ในบริเวณพื้นที่ของสจล.ก่อนเป็นที่แรก 

นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า จากปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองพิษขนาดเล็กPM 2.5 ใน ช่วงที่ผ่านมานั้น ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนที่อาศัยในเขตเมืองใหญ่ของประเทศ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น แต่สาเหตุการเกิดปัญหาฝุ่นในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันจากรูปแบบการพัฒนาเมืองและวิถีชีวิตประชาชน โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯที่พบว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นผลมาจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์และการก่อสร้างสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์พร้อมกันในหลายโครงการ ปัญหาดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาสู่ความเป็นเมืองเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งส่งผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มทารก เด็ก และเยาวชน ที่ต้องการการดูและเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นช่วงวัยที่ร่างกายเจริญเติบโต 

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว คือการลดการก่อฝุ่นในเขตพื้นที่มีมลพิษ เช่น ใช้ตาข่ายกันพื้นที่ก่อสร้างเพื่อดักจับฝุ่นละอองในโครงการก่อสร้างสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 ป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยชนิดN95 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน เป็นการแก้ปัญหาฝุ่นละอองในระยะสั้น ,ลดใช้ยานพาหนะก่อฝุ่น การตรวจสภาพเครื่องยนต์ยานพาหนะขนส่งสาธารณะและยาน พาหนะอื่นๆให้มีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และในระบบยานพาหนะของภาครัฐควรใช้ระบบการเช่ารถมากกว่าการจัดซื้อ เนื่องจากมีความคุ้มค่าในเรื่องการบำรุงรักษาและมุ่งปรับเปลี่ยนยานพาหนะสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในเขตเมือง เป็นการแก้ปัญหาระยะกลาง, ภาษีฝุ่นหยุดมลพิษ การใช้แนวคิดการใช้ภาษีสิ่งแวดล้อมจูงใจให้ทั้งผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อลดการก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศไทยอยู่ในขั้นตอนการเสนอมาตรการเรียกเก็บภาษีมลพิษและจะออกมาบังคับใช้ในอนาคต ซึ่งรัฐบาลวางแผน การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเชิงรุกระยะยาว และไม่ผลักภาระของต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพไปให้ประชาชน เป็นการแก้ปัญหาระยะยาว

ด้านนายประพัทธ์พงษ์ กล่าวว่า สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ ได้ออกแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็กในเขตพื้นที่เมือง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสามารถเฝ้าระวังจุดเสี่ยงโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรแออัด สำหรับการก่อสร้างป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็กจะประยุกต์จากจุดรอรถเมล์ที่มีอยู่โดยติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดฝุ่นละอองและพัดลม เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หากเซ็นเซอร์ตรวจจับแจ้งว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในบริเวณนั้นมีสูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน ระบบพัดลมจะทำงานโดยอัตโนมัติ พร้อมติดตั้งป้ายแจ้งเตือนบอกคุณภาพอากาศโดยรวมของกรุงเทพฯ

 

ทั้งนี้ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะเตือนภัยฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถพัฒนาและปรับปรุงต่อเพื่อให้เป็นสมาร์ท บัส สตอป (Smart Bus Stop) เช่น การมีฟังก์ชั่นเรียกรถพยาบาลหรือตำรวจ  จอป้ายแจ้งเตือนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคน (Interactive Panels) เป็นต้น โดยสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะได้พัฒนานวัตกรรมสมาร์ท ซิตี้ อื่นๆ ในการแก้ปัญหาสังคมเมือง เช่น การพัฒนาเอไอ (AI) ช่วยในการแก้ไขปัญหาจราจรแบบเรียลไทม์ บิ๊กเดต้า (Big Data) ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร การสร้างแก้มลิงใต้ดินสำหรับรองรับน้ำท่วมกทม. เป็นต้น

สำหรับโรดแมปการคาดการณ์วิกฤติฝุ่นในรอบปี พ.ศ.2562 –2563 สำนัก วิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) ได้จัดตั้งศูนย์รวบรวมติดตามข้อมูลมลพิษทางอากาศและวางแผนการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยทีมอาสาสมัครสม็อคแมน (SMOG Man) เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แบบเรียลไทม์เฉพาะจุด รวมทั้ง การพัฒนาระบบการตรวจวัดฝุ่นละอองในแต่ละที่ตั้งเป้านำร่องสถานศึกษาทั่วกรุงเทพฯ โดยเขตลาดกระบังจะเป็นพื้นที่แรกในการเก็บสถิติเพื่อคาดการณ์ปริมาณฝุ่นละอองภายในเดือนก.ค.2562 ซึ่งแนวโน้มปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี จากการพัฒนาโครงการก่อสร้างต่างๆ ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ปริมาณยานพาหนะบนท้องถนน และความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจากภาวะโลกร้อน ข้อมูลการพยากรณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอนาคต จะได้รับการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านเฟซบุ๊ค SCiRA KMITL ด้วยการใช้เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศแบบเฉพาะจุดที่จะเพิ่มความแม่นยำในการคาดการณ์ 

นพ.อนันต์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว คือกลุ่มทารก เด็ก และเยาวชน ที่มีกว่า 1,700,000 คน ที่อาศัยหรือเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและเด็กอีกกว่า 2,500,000 คนในเขตเมืองใหญ่ ทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี แพร่ ลำปาง เป็นต้น ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยกลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่เดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นส่วนใหญ่และหน้ากากอนามัยN95 ที่ใช้ป้องกันฝุ่นนั้นไม่ได้ออกแบบให้รับกับสรีระใบหน้าของเด็กส่งผลให้ป้องกันได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพอาจก่อ ให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคทางสมอง และโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นการทำลายทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคตทางอ้อม .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ