สจล.โชว์นวัตกรรมผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจนได้เอง-เร่งสร้าง รพ.พระจอมเกล้าฯ

กรุงเทพฯ 26 ก.ย.- สจล.โชว์นวัตกรรมผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจนได้เอง ราคาถูกกว่านำเข้า 3-4 เท่า พร้อมเร่งสร้าง รพ.พระจอมเกล้าฯ เปิดบริการในปี 67 ตั้งเป้าเป็นศูนย์วิจัยและผลิตเครื่องแพทย์ครบวงจรแห่งแรกของไทย


ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงความจำเป็นที่ต้องสร้าง รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เพราะต้องการเห็นคนไทยได้รับการดูแลและเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง เนื่องจากปัจจุบัน รพ.ของรัฐมีไม่เพียงพอ คนไข้แออัด และไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ จึงเกิดปัญหาขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งในไทยมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญและสามารถผลิตเครื่องมือแพทย์ได้เอง แต่ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนให้นำไปใช้รักษาคนไข้ในระบบ

ทางมูลนิธิฯ เล็งเห็นศักยภาพในส่วนนี้ จึงคิดและระดมทุนสร้าง รพ.พระจอมเกล้าฯ ขึ้น เพื่อให้ให้เป็น รพ.วิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์แห่งแรกของไทย โดยการใช้เทคโนโลยีแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยทางการแพทย์หลากหลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด ชูจุดเด่นการพัฒนาวิจัย และผลิตเครื่องมือแพทย์ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ภายใต้คอนเซปต์ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยรอด” หวังสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพให้คนไทย หลังมีบทเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกประเทศเจอวิกฤติเหมือนกัน จนขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ ไม่สามารถขายเครื่องจ่ายออกซิเจนให้ไทยได้ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จึงระดมทุนจากประชาชนมาวิจัยพัฒนาและผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจน KMITL High Flow และเครื่องผลิตออกซิเจน แจกจ่ายให้ รพ.สนาม และ รพ.ที่ขาดแคลน กว่า 1,000 เครื่อง ใน รพ. 400 แห่ง เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดอย่างเร่งด่วน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่คนไทยผลิตเครื่องจ่ายออกซิเจนได้เอง และมีราคาถูกกว่าการนำเข้าถึง 3-4 เท่า


ศ.นพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง บอกว่า โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารมุ่งหวังเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยและภูมิภาคอาเซียน ให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนานวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส รองรับวิกฤติสุขภาพโรคระบาด โดยผสานองค์ความรู้หลากหลายสาขาวิชา ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์เองภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศ

โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้ สร้างบนพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร รองรับผู้ป่วยได้ 60 เตียง ให้บริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ โดยนำเทคโนโลยีล้ำสมัยทางการแพทย์มาช่วยเพิ่มศักยกาพและขยายขอบเขตการรักษาให้สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ระบบฐานข้อมูลดูแลสุขภาพ (Healthcare Big Data) ช่วยติดตามผลการรักษา และนำข้อมูลไปใช้เป็นองค์ความรู้เพื่อพัฒนาเครื่องมือแพทย์ และวิธีการรักษาผู้ป่วยในโรคเดียวกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การให้บริการสอบถามปัญหาสุขภาพทั่วไป การวินิจฉัยโรคเบื้องต้น ตลอดจนให้แนวทางการรักษาโรคผ่านช่องทางการสื่อสารอัตโนมัติแชตบอต (Chatbot) ที่พัฒนาด้วยระบบเอไอ (AI) ช่วยลดความแออัดใน รพ. ลดการเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางพบแพทย์ และช่วยลดภาระให้ลูกหลานที่ต้องลางานพาคนไข้มารับการรักษา ดังนั้น เมื่อ รพ.ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะไม่ได้สร้างประโยชน์ให้เฉพาะคนไข้เท่านั้น แต่จะยังทำหน้าที่ศึกษาวิจัย เผยแพร่นวัตกรรมทางการแพทย์ และผลิตเครื่องมือแพทย์ไปสู่โรงพยาบาลทั่วประเทศอีกด้วย เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ขณะนี้โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้าง มีแผนจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในปี 2567 เฉพาะตัวโครงสร้างและการวางระบบใช้งบประมาณก่อสร้างราว 1,000 ล้านบาท ยังไม่รวมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ ขณะนี้จึงยังขาดแคลนทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีมูลนิธิ รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ หมายเลขบัญชี 693-0-32393-4 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-2454-8160, 09-2548-2640 และ 0-2329-8000 ต่อ 3146 ผู้ร่วมบริจาคสามารถนำใบเสร็จไปใช้ลดหย่อนภาษีได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

วิกฤติหนัก เมืองน่านจมบาดาล ขยายวงกว้างเกือบ 10 กม.

น่าน 24 ก.ค. – น้ำท่วมตัวเมืองน่านยังวิกฤติหนัก หลังน้ำน่านยังเพิ่มสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 แล้วและขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยังเร่งช่วยเหลือผู้คน รวมทั้งผู้ป่วยออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา

ฉะเชิงเทรา 24 ก.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ ส่งกำลังใจถึงกองทัพ เชื่อทั่วโลกประณามกัมพูชา เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ทำประชาชนบาดเจ็บ พร้อมส่งกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่ รัฐบาลเตรียมมาตรการไว้แล้ว ที่อดทนอดกลั้นเพราะไม่อยากให้เสียเลือดเสียเนื้อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางลงพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อประชุมติดตามผลการดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ที่ศาลาว่าการจังหวัดฉะเชิงเทรา ถึงกรณี รัฐบาลและกองทัพร่วมกันทำกรอบการดูแลพี่น้องประชาชนเป็นจุดยืนที่เน้นย้ำมาโดยตลอด แต่ในที่สุดฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่า ฝ่ายไทยยิงก่อนเช่นเดิม แต่ในสายตาของชาวโลกนั้น เรามีเครื่องไม้เครื่องมือที่เยอะกว่า ชาวโลดจะเชื่อถือกัมพูชาคงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งทางนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมความพร้อมอย่างดีในการดูแลพี่น้องประชาชน จากการโทรพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการประชุมกันการรับมือกับอาวุธที่มีตรงชายแดนพร้อมนานแล้ว หากเทียบกับสถานการณ์ปี 54 พร้อมมากกว่า 2-3 เท่า ในส่วนของกองทัพ แน่นอนว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงตั้งแต่แรกแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทางกองทัพเตรียมความพร้อมไว้อย่างดี สิ่งสำคัญที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ความสามัคคีของคนในชาติ สิ่งที่กองทัพและรัฐบาลพยายามมาโดยตลอดคือ ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ คือสิ่งที่ทำมาเสมอ “เรารักคนของเราประเทศชาติของเราเรา ไม่อยากให้ใครก็ตามได้รับผลกระทบหรือความเจ็บปวดในครั้งนี้” แม้เราจะไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นเขาคิดอย่างไรกับประชาชนของเขา แต่เราคิดกับประชาชนเราแบบนี้ เป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่ารัฐบาลและกองทัพทำมาโดยตลอด ทั้งนี้รักษาการนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ […]

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย