ดึงเวชภัณฑ์-บริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม

นนทบุรี 9 ม.ค. – ที่ประชุม กกร.ทบทวนรายการสินค้าควบคุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าปัจจุบัน มีมติให้เวชภัณฑ์เป็นสินค้าควบคุม รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์เป็นบริการควบคุม  ทำให้ปี 2562 มีสินค้าและบริการควบคุม  52 รายการ


นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1 ของปี 2562 เพื่อทบทวนรายการสินค้าและบริการควบคุมประจำปี ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าปัจจุบัน ว่า จะเพิ่มหรือถอดรายการ สินค้าใดออกจากบัญชีควบคุมบ้าง ซึ่งเน้นสินค้าที่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนเป็นหลัก และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรืออาจจะถอดสินค้าที่ราคาอยู่ในระดับปกติ และมีการแข่งขันตามกลไกของราคา  จากปี 2561 มีรายการสินค้าอุปโภคบริโภคที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลตามบัญชีสินค้าและบริการควบคุม  54 รายการ แบ่งเป็นสินค้า 49 รายการ และบริการ 5 รายการ  

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเพิ่มบัญชีรายการสินค้าและบริการควบคุมอีก 1 รายการ คือ เวชภัณฑ์ จากเดิมที่มีเพียงยารักษาโรคเป็นสินค้าควบคุม  ส่วนบริการควบคุมเพิ่มอีก 1 รายการ  ได้แก่ บริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่น ๆ ของสถานพยาบาลเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุม


ส่วนมาตรการดูแลสินค้าควบคุมรายการใหม่ ที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณากำหนดมาตรการในการดูแล ซึ่งมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ สมาคมประกัยภัย มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อให้ได้ข้อมูลจากทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียนำมากำหนดเป็นมาตรการให้ครอบคลุมและเป็นธรรม 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีเห็นชอบให้ถอด 4 รายการสินค้า ออกจากบัญชีสินค้าควบคุม ได้แก่ เยื่อกระดาษ เนื่องจากไม่มีปัญหาด้านโครงสร้างราคาแล้ว  เม็ดพลาสติก เพราะมีผู้ผลิตหลายราย ทำให้การแข่งขันสูง แบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมมีผู้ใช้จำนวนน้อย และน้ำตาลทราย ให้สอดคล้องกับนโยบายการลอยตัว และขณะนี้ราคาในตลาดอยู่ในระดับต่ำ 

ทั้งนี้ ปี 2562 จะมีสินค้าที่อยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม 52 รายการ แบ่งเป็นสินค้า 46 รายการ และบริการ 6 รายการ  โดยจะนำเสนอผลการประชุมต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ