กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นของสมาชิกหอการค้าไทยทุกภูมิภาคในเดือนพฤศจิกายนปรับตัวดีขึ้นตามการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วงปลายปี รวมทั้งการใช้จ่าย และการลงทุนของภาครัฐในต้นปีงบประมาณ
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา จากสมาชิกหอการค้าภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า มีการปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.3 จากเดือนตุลาคมที่อยู่ระดับ 48.0 ตามการเติบโตของการท่องเที่ยวช่วงปลายปี ที่ส่งผลต่อการจ้างงานในอุตสาหกรรมบริการ รวมทั้งการใช้จ่าย และการลงทุนของภาครัฐในต้นปีงบประมาณ การนำเข้า – ส่งออกที่ยังมีสัญญาณการเติบโต และราคาสินค้าเกษตรบางรายการโดยเฉพาะข้าวปรับตัวดีขึ้น ดังนั้นหากดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งการบริโภค การลงทุน ท่องเที่ยว เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้า การค้าชายแดน ภาคบริการ และการจ้างงาน ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยแบบรายภูมิภาค กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคใต้ที่ปรับตัวลดลง หลังนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาปกติ เพราะยังกังวลต่อความปลอดภัย และปัญหาราคายางพาราและปาล์มตกต่ำ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลับมาปรับตัวดีขึ้น ที่ระดับ 49.7 จาก 49.4 เดือนก่อนหน้า ขณะที่ ภาคกลาง ดัชนีฯ สูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 48.2 จาก 47.9 ในเดือนก่อนหน้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีฯปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 47.4 ภาคเหนือ ค่าดัชนีดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 48.5 และภาคตะวันออก ยังคงเป็นภูมิภาคเดียว ที่ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย สูงเกินค่ากลางที่ 50 มาตลอด โดยในเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ 52.5 จากทุกปัจจัยยกเว้น การจ้างงาน ที่อยู่ที่ระดับ 49.7
นายปรัชญา สมะลาภา รองประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก บอกว่า สาเหตุประชาชนห่วงตัวเลขการว่างงาน เนื่องจากคนในพื้นที่ภาคตะวันออกที่ได้ทำงานในอุตสาหกรรมคุณภาพเริ่มน้อยลง เพราะการศึกษายังไม่สอดคล้องกับงาน ซึ่งขณะนี้ กำลังรอความชัดเจนของ พรบ.กำหนดพื้นที่การศึกษาเขตนัวตกรรมฉบับใหม่ ที่จะให้อิสระคนในพื้นที่กำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับประถม ซึ่งจะมีการเร่งทดลองที่จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดแรก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย สะท้อนว่าเศรษฐกิจในภาพรวม ยังคงฟื้นตัว แต่ยังกระจุกเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และบริการ แต่ขณะนี้ ยังมีมาตรการกระตุ้ยเศรษฐกิจทั้งช๊อบช่วยชาติ การจ่ายเงินเติมให้กับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ให้ขยายตัวร้อยละ 4.2 ตามเป้าหมาย ส่วนในปีหน้า หากยังไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย สงครามการค้ายังนิ่ง รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาเที่ยวไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทย จะขยายตัวได้ร้อยละ 4-4.5 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย