ส.อ.ท.ชี้เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ฉุดดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – ส.อ.ท. ชี้เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ฉุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดน ทำดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ร่วง หวั่น Reciprocal Tariff กระทบขีดความสามารถการแข่งขัน


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 86.6 ปรับตัวลดลงจาก 87.7 ในเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 10,907.53 ล้านบาท ลดลง 32.29% เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2568 (MoM) และลดลง 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

นอกจากนี้ สถานการณ์อุทกภัยและน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น จังหวัดน่านและเชียงราย ยังสร้างความเสียหายต่อชุมชน บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันความกังวลต่อการจัดเก็บภาษี Reciprocal Tariff ในอัตรา 36% (ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคม 2568) ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย ยิ่งไปกว่านั้น ความกังวลต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่อาจเกิดความล่าช้า ตลอดจนการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 และงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.15 แสนล้านบาท ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งกำลังซื้อในประเทศที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในหมวดสินค้าคงทน เช่น เครื่องปรับอากาศและเครื่องจักรกล ส่งผลให้ภาคการบริโภคภายในประเทศเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม


อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม ยังคงมีปัจจัยบวกจากโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” จำนวน 500,000 สิทธิ์ ภายใต้งบประมาณ 1,750 ล้านบาท (เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568) ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันการลงทุนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2568 มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุน ยกระดับโครงสร้างเศรษฐกิจ และเพิ่มการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม อีกทั้ง ราคาน้ำมันที่ทรงตัว ยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,356 ราย ครอบคลุม 47 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในเดือนกรกฎาคม 2568 พบว่าปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจภายในประเทศ 70.1% เศรษฐกิจโลก 66.7% นโยบายภาครัฐ 57.2% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) 44.9% ราคาพลังงาน 35.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 27.1% ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ การเข้าถึงสินเชื่อ 42.3%

ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นกัน อยู่ที่ระดับ 89.2 ลดลงจาก 90.8 ในเดือนมิถุนายน 2568 เนื่องจากผลการเจรจาภาษี Reciprocal Tariff กับสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน หากอัตราภาษีไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค อีกทั้งข้อพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชาที่ยืดเยื้อยังคงส่งผลกระทบต่อมูลค่าการค้าชายแดน


อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ มาตรการตรึงราคาพลังงาน โดยค่าไฟฟ้างวดเดือนกันยายน–ธันวาคม 2568 คงอยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย รวมถึงมาตรการส่งเสริมการติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด อีกทั้งมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย (เริ่ม 1 ตุลาคม 2568) ที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน

เอกชนเสนอให้ภาครัฐออกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้โดยเร็ว พร้อมทั้งจัดทำโครงการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศกัมพูชา เพื่อบรรเทาผลกระทบและลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว

ออกมาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือเงื่อนไขผ่อนปรนเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินและสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการในการปรับตัว เพื่อรับมือกับอัตราภาษี Reciprocal Tariff ที่ประกาศในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 และขอให้ภาครัฐเร่งลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นระบบเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกัก กระจายน้ำ และฟื้นฟูระบบนิเวศน้ำอย่างยั่งยืน. -517-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย

“หลวงพ่ออลงกต” ลาออกเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง ด้วย พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 ส.ค.2568.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต

กทม. 19 ส.ค.-ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) หรือที่รู้จักกันในนาม “Hunter” “นักล่า ผู้พิฆาตไพรี” พร้อมเสิร์ฟไข่เบอร์ศูนย์ให้กับผู้รุกรานประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจกองทัพอากาศไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมปฏิบัติการของเครื่องบินโจมตีแอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) ฝูงบิน 231 กองบิน 23 ระบุว่า พร้อมปฏิบัติการด้วยจิตใจที่ห้าวหาญของนักรบทางอากาศ และศักยภาพของเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet TH) ที่ได้รับการปรับปรุงขีดความ ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยสามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายภาคพื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อดำรงให้กองทัพอากาศไทย มีความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคง ในการพิทักษ์รักษาอธิปไตย ผลประโยชน์แห่งชาติ และปกป้องพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากการรุกรานของข้าศึกศัตรู ดังคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะไม่ให้ใครย่ำยี”.-313.-สำนักข่าวไทย