กรุงเทพฯ 11 ธ.ค. – เกษตรฯ เร่งทำความเข้าใจ อปท.ทั่วประเทศ หลังได้รับแบบและสูตรถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราจากกรมทางหลวง เพื่อเริ่มรับซื้อน้ำยางจากสถาบันเกษตร ม.ค.62
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนยางพารา โดยมีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงรายนำเสนอผลการก่อสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราร่วมกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สาขาเชียงราย ปรับปรุงถนนลูกรังสายหลังวัดพระธาตุจอมสัก ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 500 เมตร ซึ่งเป็นถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพาราสายแรกภาคเหนือ ทั้งนี้ เป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวันออกเฉียงเหนือใช้ส่วนผสมน้ำยางพาราสดร้อยละ 60 ต่อผงปูนซีเมนต์ร้อยละ 40 หากสร้างถนน 1 กิโลเมตร จะใช้น้ำยาง 3,500 กิโลกรัม ดำเนินการเมื่อ 8 เดือนก่อน จากการทดสอบพบว่ามีความทนทานรองรับน้ำหนักได้ดี ทั้งนี้ อบจ.เชียงรายจะนำไปปรับปรุงถนนสายอื่น ๆ ปัจจุบันเชียงรายมีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 300,000 ไร่ เกษตรกร 20,000 ราย ได้ผลผลิตยางก้อนถ้วยและน้ำยางกว่า 50,000 ตันต่อปี คาดว่าการนำน้ำยางสดทำถนนจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราแก้ไขปัญหายางล้นตลาดและราคายางตกต่ำได้เป็นอย่างดี
นายกฤษฎา กล่าวว่า กรมทางหลวงส่งแบบและสูตรก่อสร้างถนนงานดินซีเมนต์ผสมยางพารามาให้กระทรวงเกษตรฯ แล้ว ซึ่งทาง อบจ. เชียงรายสร้างถนนนำร่องเห็นว่าตามข้อกำหนดของกรมทางหลวงกำหนดคุณภาพของดินลูกรังที่จะมาใช้บดอัดผสมยางพาราและผงปูนซีเมนต์นั้น มีมาตรฐานสูงอาจทำให้บางพื้นที่ไม่สะดวกในการจัดหา แต่จากการก่อสร้างถนนสายแรก ปรากฏว่าดินลูกรังในพื้นที่สามารถใช้ทำถนนได้ ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จะหารือกับกรมทางหลวงปรับคุณสมบัติของดินลูกรัง ส่วนราคากลางเดิมกรมบัญชีกลางกำหนดว่าค่าก่อสร้างกิโลเมตรละ 1.2 ล้านบาทนั้นเป็นราคาจ้างเหมา ซึ่ง อบจ.เชียงรายยืนยันว่าหาก อบจ.ใช้กองช่างของท้องถิ่นดำเนินการงบประมาณอยู่ที่กิโลเมตรละ 1 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังขอชี้แจงเกษตรกรชาวสวนยางที่กังวลว่าโครงการสร้างถนนจะไม่รับซื้อน้ำยางสดในพื้นที่โดยตรง แต่จะไปรับซื้อน้ำยางที่ผสมสารลดแรงตึงผิวจากโรงงานแปรรูปน้ำยางที่เป็นของนายทุนไม่กี่รายนั้น ไม่เป็นความจริง สูตรก่อสร้างที่กรมทางหลวงกำหนดสามารถใช้น้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรนำมาผสมสารลดแรงตึงผิวแล้วใช้งานได้เลย
นายกฤษฎา กล่าวว่า จะเร่งประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกันทำความเข้าใจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้แจ้งความจำนงค์เข้ามามากว่าต้องการร่วมโครงการสร้างถนน 1หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร โดยจะอธิบายถึงแบบและสูตรก่อสร้างมอบคู่มือการก่อสร้าง รวมถึงการนำงบประมาณของ อปท.มาดำเนินการให้เข้าใจตรงกันภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อเริ่มเดือนมกราคม 2562 ทุกท้องถิ่นสามารถรับซื้อน้ำยางพาราสดจากสถาบันเกษตรกรมาก่อสร้างได้เลย
อีกทั้งจะสั่งการให้ผู้ช่วยทูตเกษตรในประเทศต่าง ๆ ศึกษาข้อเท็จจริงตามที่อาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกเฉียงเหนือรายงานว่าในประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย รวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกาหันมาก่อสร้างถนนและลานจอดรถแบบงานดินซีเมนต์ผสมยางธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่าโพลิเมอร์ลาเท็กซ์เพิ่มขึ้น เนื่องจากยางธรรมชาติปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแอสฟัลท์ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือจากการกลั่นน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ยังมีความทนทาน ยืดหยุ่น และลดการเสียดสีของล้อยางได้ดีกว่าถนนคอนกรีต โดยมอบหมายผู้ช่วยทูตเกษตรตรวจสอบข้อมูลว่ายางธรรมชาติที่ต่างประเทศใช้มาจากยางพาราหรือพืชชนิดอื่น แต่ความนิยมใช้ยางธรรมชาติทำถนนในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นแนวโน้มที่ดีในการส่งออกน้ำยางพาราจากสถาบันเกษตรกรไปจำหน่าย โดยการส่งออกนั้นมอบหมายให้ กยท. ศึกษาแนวทางว่า กยท. จะรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกรแล้วดำเนินการส่งออกเองให้สถาบันเกษตรกรที่เข้มแข็งส่งออก หรือ กยท. จัดตั้งบริษัทร่วมค้ากับสถาบันเกษตรกรในการส่งออก ทำให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายยางพารามากขึ้นและแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย