กรุงเทพฯ 31 มี.ค. – สภากาชาดไทยสนับสนุนงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อมอบแก่โรงพยาบาลและสถานพยาบาลที่ขาดแคลนทั่วประเทศ พร้อมจัดชุดอาหารให้ผู้กักตนเอง
นายกฤษฎา บุญราช ผู้อำนวยการสำนักบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือแจ้งนายกเหล่ากาชาดจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ว่า ให้สามารถใช้เงินประมาณประจำปีและหรือเงินสะสมเหล่ากาชาดจังหวัดไปสนับสนุนโรงพยาบาลและหรือสถานพยาบาลที่ขาดแคลนเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ร้องขอเครื่องช่วยหายใจมาเพื่อรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งนี้ สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดขออนุมัติต่อเหรัญญิกสภากาชาดไทย เพื่อให้เหล่ากาชาดจังหวัดจ่ายขาดเงินสะสมของเหล่ากาชาดจังหวัดที่มีอยู่แล้วในวงเงินไม่เกินร้อยละ 20 ของเงินสะสมที่มีอยู่ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ มอบอำนาจให้นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเป็นผู้อนุมัติซื้อจ้าง / จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ กรณีที่มีวงเงินเกินครั้งละ 500,000 บาท ตามระเบียบสภากาชาดไทยว่าด้วยการพัสดุของเหล่ากาชาดจังหวัด พ.ศ. 2546 และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 31 โดยขณะนี้มีโรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั่วประเทศทยอยขอรับการสนับสนุน จึงเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความคล่องตัวต่อการปฏิบัติงานและความมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19
นอกจากนี้ ยังให้เหล่ากาชาดจังหวัดเชิญชวนประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ โดยการบริจาคทรัพย์ เพื่อเป็นรายได้ของเหล่ากาชาดจังหวัด หรือสิ่งของต่าง ๆ หรือการเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครสภากาชาดไทยในการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อร่วมกันป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วย ผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ทางสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ร่วมกับสำนักงานจัดหารายได้และสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาดประสงค์จะช่วยเหลือผู้ที่ต้องกักตัวให้สามารถอยู่ในที่พักได้ครบ 14 วันตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดทำโครงการสนับสนุนชุดข้าวและอาหารแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากผู้ที่ต้องกักตัวจำนวนมากมีฐานะยากจน เมื่อไม่ได้ทำงานจึงมีปัญหาเรื่องการยังชีพ โดยให้เหล่ากาชาดจังหวัดประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัดหรือฝ่ายเยียวยาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อแจ้งว่า สภากาชาดไทยยินดีสนับสนุนมาตรการรณรงค์ให้ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่เชื้อโรคโควิดต้องกักตนเองในที่พักเป็นเวลา 14 วัน มีข้าวและอาหารรับประทาน โดยไม่ต้องออกไปนอกที่พักอาศัย
ทั้งนี้ ให้เหล่ากาชาดจังหวัด/กิ่งกาชาดอำเภอ ขอความร่วมมืออาสาสมัครสภากาชาดไทยในพื้นที่หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สำรวจผู้ที่ถูกกักกันตัวที่มีฐานะยากจนซึ่งต้องการข้าวและอาหาร แล้วแจ้งผ่านนายอำเภอท้องที่ หรือให้ผู้แทน อสม.ในหมู่บ้านดาวน์โหลดและร้องขอผ่านแอปพลิเคชั่น “พ้นภัย” มายังสภากาชาดไทยหรือแจ้งไปที่เหล่ากาชาดจังหวัด โดยอาจนำข้าวและอาหารไปมอบเองหรือส่งมอบไปให้หน่วยงานในพื้นที่ไปมอบให้ถึงที่พัก
“ผู้มีจิตศรัทธาซึ่งประสงค์จะบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการจัดหาข้าวและอาหารแก่ผู้เสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 ที่อยู่ระหว่างกักกันตนเอง สามารถบริจาคผ่านสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักสีลม ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทยเพื่อภัยพิบัติ” ประเภทบัญชี “กระแสรายวัน” เลขที่ 001-1-34567-0” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย