สภากาชาดไทย ยันไม่มีการซื้อขายอวัยวะตามข่าว ชี้ผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ย้ำไม่มีการซื้อขายตามข่าวในโลกออนไลน์ เผยผิดทั้ง กม.-จริยธรรม-ศีลธรรม ไทยมีระบบการบริจาคอวัยวะ ขออย่าหลงเชื่อขบวนการตลาดมืด แนะตำรวจหาเบาะแสต่อ หากมีขบวนการนี้จริง


รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย แถลงข่าวจากกรณีที่มีการเผยแพร่เรื่อง “การซื้อขายอวัยวะ” ตามกระแสข่าวออนไลน์ซึ่งทำให้เกิดการเข้าใจผิดเป็นวงกว้างว่าอวัยวะที่บริจาคสามารถซื้อ-ขายได้ โดยระบุว่าตามที่แชร์กันก็ยังไม่เห็นข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีการซื้อขายในตลาดมืดประเทศไทยจากที่เห็นราคาบอกว่าเท่านั้นเท่านี้

การซื้อขายอวัยวะในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม ไม่สมควรกระทำ อย่างตามกฏหมายของไทยมีหลายข้อที่มีโทษถึงจำคุกและโทษปรับและไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ซื้อขายผู้ที่เกี่ยวข้องในหน้าแพทย์หรือแม้แต่ตัวโรงพยาบาลที่ทำเรื่องดังกล่าวก็มีความผิด ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญา และแพ่ง ที่เกี่ยวข้อง ผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ส่วน พ.ร.บ.การปลูกถ่ายอวัยวะนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นร่าง กม.โดยหาก กม.ที่สำเร็จก็จะช่วยส่งเสริมให้ระบบการบริจาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงโทษความผิดมีโทษจาก กม.การค้ามนุษย์ฯ ที่มีโทษหนัก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องระเบียบควบคุม รพ.และแพทย์ ของแพทยสภาที่มีข้อบังคับจริยธรรมและวิชาชีพฉบับ 2566 โดยยอมให้มีการปลูกถ่ายได้เฉพาะในโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย


ซึ่งปัจจุบันมี รพ.ในระบบที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะของสภากาชาด 40 กว่าแห่ง มีระเบียบขั้นตอน มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในเรื่องของความปลอดภัย และต้องไม่ใช่เป็นการซื้อขาย ซึ่งจะมีคณะกรรมการรับรองโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกในการปลูกถ่าย มีการตรวจเยี่ยม รพ. ทุก 5 ปี เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

โดยจากข่าว หากปล่อยให้มีการซื้อขายจริงเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เป็นการเอาเปรียบ ซึ่งผู้ที่มาขายที่คงไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวนำอวัยวะไปให้ผู้อื่น แต่บางรายอาจจะถูกขู่ หรือถูกหลอกลวง อ้างจะให้เงินแล้วบอกปลอดภัย แต่ในความจริงไม่เป็นแบบนั้น มีบทเรียนในต่างประเทศ พอหลงเชื่อก็ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับเงินที่หวัง ไม่ได้รับการดูแล กลายเป็นโรคเรื้อรัง เดือดร้อนหนักกว่าเดิม กลุ่มเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยการลักลอบทำก็เสี่ยงติดเชื้อ เป็นอันตรายกับทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย ส่วนในเคสที่เป็นญาติกัน แพทย์ต้องประเมินสุขภาพก่อน ซึ่งตามหลักต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้ให้เป็นอันดับหนึ่ง

รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 67 มีผู้เสียชีวิตที่แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ 336 ราย สามารถนำไปปลูกถ่ายได้ 800 กว่าราย ในปี 68 คาดว่าจะมีจำนวนผู้แสดงเจตจำนงบริจาคเพิ่มขึ้นอาจถึง 600 ราย ก็จะทำให้มีผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายได้มากกว่า 1,000 ราย แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะมีผู้ป่วยรายใหม่ที่แสดงความเจตจำนงเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเช่นกัน


ผู้ที่ยินยอมให้นำอวัยวะออกไปจากร่างกาย ต้องมั่นใจว่าจะมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่งต้องมีการดูแลสุขภาพอย่างดี ดังนั้นการลักลอบทำจึงไม่ปลอดภัย และย้ำว่า อวัยวะที่ได้รับบริจาคจากสภากาชาดไทย ผู้รับไม่ต้องเสียเงินใดๆ ในค่าอวัยวะ สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ใน รพ.รัฐตามสิทธิ

นางสาวอมรรัตน์ สุริยะบุญ อายุ 39 ปี อาชีพครู หนึ่งในที่มาบริจาคอวัยวะวันนี้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ บอกว่า ตั้งใจมา บริจาคร่างกาย ดวงตา และอวัยวะ ดูข้อมูลจากสภากาชาดมาก่อน มีความคิดว่า หากอนาคตเราไม่อยู่แล้ว ก็อยากให้ร่างกายเป็นประโยชนกับคนอื่น ซึ่งก็ได้แจ้งบอกปรึกษากับครอบครัวมาแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ามีการซื้อขายอวัยวะในตลาดมืดก็เห็นข่าว แต่ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลการบริจาคอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 7,555 คน แบ่งเป็น ไต มากที่สุด 7,019 คน, ตับ 430 คน, หัวใจ 45 คน, ตับอ่อน-ไต 28 คน, หัวใจ-ปอด 14 คน, ตับ-ไต 8 คน, ปอด 7 คน, หัวใจ-ไต 3 คน และตับอ่อน 1 คน

สภากาชาดไทยยังเชิญชวนผู้ที่ต้องการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย หรือตาม รพ.ต่างๆ ที่เปิดรับแจ้งหรือที่ เว็บไซต์ https://organdonate.redcross.or.th/ หรือผ่าน แอปฯ หมอพร้อม ซึ่งสามารถเลือกบริจาคเฉพาะบางอวัยวะได้ และสามารถถอนเจตจำนงเมื่อใดก็ได้. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]