สภากาชาดไทย ยันไม่มีการซื้อขายอวัยวะตามข่าว ชี้ผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ย้ำไม่มีการซื้อขายตามข่าวในโลกออนไลน์ เผยผิดทั้ง กม.-จริยธรรม-ศีลธรรม ไทยมีระบบการบริจาคอวัยวะ ขออย่าหลงเชื่อขบวนการตลาดมืด แนะตำรวจหาเบาะแสต่อ หากมีขบวนการนี้จริง


รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย แถลงข่าวจากกรณีที่มีการเผยแพร่เรื่อง “การซื้อขายอวัยวะ” ตามกระแสข่าวออนไลน์ซึ่งทำให้เกิดการเข้าใจผิดเป็นวงกว้างว่าอวัยวะที่บริจาคสามารถซื้อ-ขายได้ โดยระบุว่าตามที่แชร์กันก็ยังไม่เห็นข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีการซื้อขายในตลาดมืดประเทศไทยจากที่เห็นราคาบอกว่าเท่านั้นเท่านี้

การซื้อขายอวัยวะในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม ไม่สมควรกระทำ อย่างตามกฏหมายของไทยมีหลายข้อที่มีโทษถึงจำคุกและโทษปรับและไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ซื้อขายผู้ที่เกี่ยวข้องในหน้าแพทย์หรือแม้แต่ตัวโรงพยาบาลที่ทำเรื่องดังกล่าวก็มีความผิด ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญา และแพ่ง ที่เกี่ยวข้อง ผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ส่วน พ.ร.บ.การปลูกถ่ายอวัยวะนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นร่าง กม.โดยหาก กม.ที่สำเร็จก็จะช่วยส่งเสริมให้ระบบการบริจาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงโทษความผิดมีโทษจาก กม.การค้ามนุษย์ฯ ที่มีโทษหนัก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องระเบียบควบคุม รพ.และแพทย์ ของแพทยสภาที่มีข้อบังคับจริยธรรมและวิชาชีพฉบับ 2566 โดยยอมให้มีการปลูกถ่ายได้เฉพาะในโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย


ซึ่งปัจจุบันมี รพ.ในระบบที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะของสภากาชาด 40 กว่าแห่ง มีระเบียบขั้นตอน มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในเรื่องของความปลอดภัย และต้องไม่ใช่เป็นการซื้อขาย ซึ่งจะมีคณะกรรมการรับรองโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกในการปลูกถ่าย มีการตรวจเยี่ยม รพ. ทุก 5 ปี เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

โดยจากข่าว หากปล่อยให้มีการซื้อขายจริงเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เป็นการเอาเปรียบ ซึ่งผู้ที่มาขายที่คงไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวนำอวัยวะไปให้ผู้อื่น แต่บางรายอาจจะถูกขู่ หรือถูกหลอกลวง อ้างจะให้เงินแล้วบอกปลอดภัย แต่ในความจริงไม่เป็นแบบนั้น มีบทเรียนในต่างประเทศ พอหลงเชื่อก็ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับเงินที่หวัง ไม่ได้รับการดูแล กลายเป็นโรคเรื้อรัง เดือดร้อนหนักกว่าเดิม กลุ่มเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยการลักลอบทำก็เสี่ยงติดเชื้อ เป็นอันตรายกับทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย ส่วนในเคสที่เป็นญาติกัน แพทย์ต้องประเมินสุขภาพก่อน ซึ่งตามหลักต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้ให้เป็นอันดับหนึ่ง

รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 67 มีผู้เสียชีวิตที่แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ 336 ราย สามารถนำไปปลูกถ่ายได้ 800 กว่าราย ในปี 68 คาดว่าจะมีจำนวนผู้แสดงเจตจำนงบริจาคเพิ่มขึ้นอาจถึง 600 ราย ก็จะทำให้มีผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายได้มากกว่า 1,000 ราย แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะมีผู้ป่วยรายใหม่ที่แสดงความเจตจำนงเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเช่นกัน


ผู้ที่ยินยอมให้นำอวัยวะออกไปจากร่างกาย ต้องมั่นใจว่าจะมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่งต้องมีการดูแลสุขภาพอย่างดี ดังนั้นการลักลอบทำจึงไม่ปลอดภัย และย้ำว่า อวัยวะที่ได้รับบริจาคจากสภากาชาดไทย ผู้รับไม่ต้องเสียเงินใดๆ ในค่าอวัยวะ สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ใน รพ.รัฐตามสิทธิ

นางสาวอมรรัตน์ สุริยะบุญ อายุ 39 ปี อาชีพครู หนึ่งในที่มาบริจาคอวัยวะวันนี้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ บอกว่า ตั้งใจมา บริจาคร่างกาย ดวงตา และอวัยวะ ดูข้อมูลจากสภากาชาดมาก่อน มีความคิดว่า หากอนาคตเราไม่อยู่แล้ว ก็อยากให้ร่างกายเป็นประโยชนกับคนอื่น ซึ่งก็ได้แจ้งบอกปรึกษากับครอบครัวมาแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ามีการซื้อขายอวัยวะในตลาดมืดก็เห็นข่าว แต่ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลการบริจาคอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 7,555 คน แบ่งเป็น ไต มากที่สุด 7,019 คน, ตับ 430 คน, หัวใจ 45 คน, ตับอ่อน-ไต 28 คน, หัวใจ-ปอด 14 คน, ตับ-ไต 8 คน, ปอด 7 คน, หัวใจ-ไต 3 คน และตับอ่อน 1 คน

สภากาชาดไทยยังเชิญชวนผู้ที่ต้องการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย หรือตาม รพ.ต่างๆ ที่เปิดรับแจ้งหรือที่ เว็บไซต์ https://organdonate.redcross.or.th/ หรือผ่าน แอปฯ หมอพร้อม ซึ่งสามารถเลือกบริจาคเฉพาะบางอวัยวะได้ และสามารถถอนเจตจำนงเมื่อใดก็ได้. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย