สภากาชาดไทย ยันไม่มีการซื้อขายอวัยวะตามข่าว ชี้ผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 25 เม.ย. – ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ย้ำไม่มีการซื้อขายตามข่าวในโลกออนไลน์ เผยผิดทั้ง กม.-จริยธรรม-ศีลธรรม ไทยมีระบบการบริจาคอวัยวะ ขออย่าหลงเชื่อขบวนการตลาดมืด แนะตำรวจหาเบาะแสต่อ หากมีขบวนการนี้จริง


รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย แถลงข่าวจากกรณีที่มีการเผยแพร่เรื่อง “การซื้อขายอวัยวะ” ตามกระแสข่าวออนไลน์ซึ่งทำให้เกิดการเข้าใจผิดเป็นวงกว้างว่าอวัยวะที่บริจาคสามารถซื้อ-ขายได้ โดยระบุว่าตามที่แชร์กันก็ยังไม่เห็นข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีการซื้อขายในตลาดมืดประเทศไทยจากที่เห็นราคาบอกว่าเท่านั้นเท่านี้

การซื้อขายอวัยวะในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม ไม่สมควรกระทำ อย่างตามกฏหมายของไทยมีหลายข้อที่มีโทษถึงจำคุกและโทษปรับและไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ซื้อขายผู้ที่เกี่ยวข้องในหน้าแพทย์หรือแม้แต่ตัวโรงพยาบาลที่ทำเรื่องดังกล่าวก็มีความผิด ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญา และแพ่ง ที่เกี่ยวข้อง ผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ส่วน พ.ร.บ.การปลูกถ่ายอวัยวะนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นร่าง กม.โดยหาก กม.ที่สำเร็จก็จะช่วยส่งเสริมให้ระบบการบริจาคมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงโทษความผิดมีโทษจาก กม.การค้ามนุษย์ฯ ที่มีโทษหนัก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องระเบียบควบคุม รพ.และแพทย์ ของแพทยสภาที่มีข้อบังคับจริยธรรมและวิชาชีพฉบับ 2566 โดยยอมให้มีการปลูกถ่ายได้เฉพาะในโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย


ซึ่งปัจจุบันมี รพ.ในระบบที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะของสภากาชาด 40 กว่าแห่ง มีระเบียบขั้นตอน มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในเรื่องของความปลอดภัย และต้องไม่ใช่เป็นการซื้อขาย ซึ่งจะมีคณะกรรมการรับรองโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกในการปลูกถ่าย มีการตรวจเยี่ยม รพ. ทุก 5 ปี เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

โดยจากข่าว หากปล่อยให้มีการซื้อขายจริงเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เป็นการเอาเปรียบ ซึ่งผู้ที่มาขายที่คงไม่มีใครอยากจะเจ็บตัวนำอวัยวะไปให้ผู้อื่น แต่บางรายอาจจะถูกขู่ หรือถูกหลอกลวง อ้างจะให้เงินแล้วบอกปลอดภัย แต่ในความจริงไม่เป็นแบบนั้น มีบทเรียนในต่างประเทศ พอหลงเชื่อก็ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับเงินที่หวัง ไม่ได้รับการดูแล กลายเป็นโรคเรื้อรัง เดือดร้อนหนักกว่าเดิม กลุ่มเหล่านี้มักเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม โดยการลักลอบทำก็เสี่ยงติดเชื้อ เป็นอันตรายกับทั้งผู้ให้และผู้รับด้วย ส่วนในเคสที่เป็นญาติกัน แพทย์ต้องประเมินสุขภาพก่อน ซึ่งตามหลักต้องคำนึงถึงความปลอดภัยผู้ให้เป็นอันดับหนึ่ง

รองผู้อำนวยการ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 67 มีผู้เสียชีวิตที่แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ 336 ราย สามารถนำไปปลูกถ่ายได้ 800 กว่าราย ในปี 68 คาดว่าจะมีจำนวนผู้แสดงเจตจำนงบริจาคเพิ่มขึ้นอาจถึง 600 ราย ก็จะทำให้มีผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายได้มากกว่า 1,000 ราย แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะมีผู้ป่วยรายใหม่ที่แสดงความเจตจำนงเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเช่นกัน


ผู้ที่ยินยอมให้นำอวัยวะออกไปจากร่างกาย ต้องมั่นใจว่าจะมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่งต้องมีการดูแลสุขภาพอย่างดี ดังนั้นการลักลอบทำจึงไม่ปลอดภัย และย้ำว่า อวัยวะที่ได้รับบริจาคจากสภากาชาดไทย ผู้รับไม่ต้องเสียเงินใดๆ ในค่าอวัยวะ สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้ใน รพ.รัฐตามสิทธิ

นางสาวอมรรัตน์ สุริยะบุญ อายุ 39 ปี อาชีพครู หนึ่งในที่มาบริจาคอวัยวะวันนี้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ บอกว่า ตั้งใจมา บริจาคร่างกาย ดวงตา และอวัยวะ ดูข้อมูลจากสภากาชาดมาก่อน มีความคิดว่า หากอนาคตเราไม่อยู่แล้ว ก็อยากให้ร่างกายเป็นประโยชนกับคนอื่น ซึ่งก็ได้แจ้งบอกปรึกษากับครอบครัวมาแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ามีการซื้อขายอวัยวะในตลาดมืดก็เห็นข่าว แต่ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลการบริจาคอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนรอรับอวัยวะกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 อยู่ที่ 7,555 คน แบ่งเป็น ไต มากที่สุด 7,019 คน, ตับ 430 คน, หัวใจ 45 คน, ตับอ่อน-ไต 28 คน, หัวใจ-ปอด 14 คน, ตับ-ไต 8 คน, ปอด 7 คน, หัวใจ-ไต 3 คน และตับอ่อน 1 คน

สภากาชาดไทยยังเชิญชวนผู้ที่ต้องการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย หรือตาม รพ.ต่างๆ ที่เปิดรับแจ้งหรือที่ เว็บไซต์ https://organdonate.redcross.or.th/ หรือผ่าน แอปฯ หมอพร้อม ซึ่งสามารถเลือกบริจาคเฉพาะบางอวัยวะได้ และสามารถถอนเจตจำนงเมื่อใดก็ได้. -417-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย