สงขลา 8 ส.ค. – ชาวประมงนำเรือยาวกว่า 70 ลำ ปิดปากอ่าวสงขลา หลังถูกเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการรื้อถอนโพงพาง เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย หวังคืนร่องน้ำ-รักษาระบบนิเวศทางทะเล
เจ้าหน้าที่หลายหน่วยสนธิกำลังรื้อถอนโพงพาง เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ในทะเลสาบสงขลา บริเวณหัวพญานาค จนถึงท่าเทียบเรือประมงใหม่ อ.เมืองสงขลา อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ส.ค.) เพื่อปฏิบัติการรื้อถอนอย่างเป็นระบบ พร้อมเก็บข้อมูลและพิกัดติดตามผล สามารถรื้อถอนได้ทั้งสิ้น 13 แถว จำนวน 159 ปาก ตามข้อสั่งการในการเปิดร่องน้ำ รวมถึงนำเสาและอุปกรณ์ทั้งหมดขึ้นเรือหลวง เพื่อนำขึ้นฝั่งอายัดไว้เป็นของกลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการรื้อถอนโพงพางผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลสาบ มีกลุ่มชาวประมงนำเรือหางยาวจำนวนกว่า 70 ลำ ออกมาขัดขวางการปฏิบัติงาน บางลำมีการพกพาอาวุธและด่าทอเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการอย่างสงบและยึดหลักกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง
กระทั่งเวลาประมาณ 08.45 น. กลุ่มชาวประมงเคลื่อนเรือเข้าปิดล้อมเรือปฏิบัติการในจุดที่มีการรื้อถอนโพงพาง เจ้าหน้าที่จึงชะลอการปฏิบัติงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า แต่ชาวเรือประมงยังคงใช้เรือหางยาวทั้ง 70 ลำ รวมตัวกันปิดกั้นเส้นทางเดินเรือในทะเลสาบและชายฝั่งทะเล เพื่อขัดขวางไม่ให้เรือประมงพาณิชย์เข้ามาขนถ่ายสินค้า ส่งผลให้การขนส่งสัตว์น้ำหยุดชะงักทันที ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการค้าขายและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัดอย่างชัดเจน
ด้านเครือข่ายภาคประชาชนใน จ.สงขลา แม้จะเห็นด้วยกับการรื้อถอนเครื่องมือโพงพาง แต่เห็นว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ส่อให้เห็นว่าเป็นการเอาใจกลุ่มทุน เรือประมงพาณิชย์ เรือบรรทุกสินค้า โดยขอให้ จ.สงขลา บังคับใช้กฎหมายในการรื้อถอนเครื่องมือโพงพางที่มีจำนวนจำนวนมากในทะเลสาบสงขลา เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน พร้อมเรียกร้องไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบการใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมด้วย.-สำนักข่าวไทย