ถอดสลักเกราะป้องกัน: 3 ด่านสำคัญ สู่ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ l “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์

“ไม่ซ้ำ ไม่ง่าย ไม่บอก”


ในยุคที่ภัยไซเบอร์พัฒนาไปไกล ไม่ว่าจะเป็น AI ลิงก์ปลอม หรือข่าวลวงที่แนบเนียนขึ้นทุกวัน หลายคนอาจมองว่าการป้องกันตัวเป็นเรื่องยาก แต่แท้จริงแล้ว เกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดเริ่มต้นได้จากตัวเราเอง ซึ่งการ “ติดอาวุธ” ให้กับชีวิตดิจิทัลไม่ใช่ที่เรื่องซับซ้อน เพียงแค่สร้าง 3 ด่านป้องกันขั้นพื้นฐาน เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักและลดความเสี่ยงได้อย่างมหาศาล

ด่านที่ 1: รหัสผ่าน – ประตูบานแรกสู่โลกดิจิทัล


เนื่องจาก “รหัสผ่านคือปราการด่านแรกที่สำคัญที่สุด” และ “รหัสผ่านที่ดี” คือ “รหัสผ่านที่ปลอดภัย” ดังนั้น ในการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย จึงควรมีความยาวอย่างน้อย  8-12 ตัว และประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่, ตัวอักษรพิมพ์เล็ก, ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ

หัวใจสำคัญ 3 ประการในการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัยคือ “ไม่ซ้ำ ไม่ง่าย ไม่บอก”

  • ไม่ซ้ำ: หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายบริการ หากจำเป็นต้องใช้รหัสผ่านที่คล้ายกัน ให้ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อสร้างความแตกต่าง เช่น เพิ่มชื่อแพลตฟอร์มต่อท้ายรหัสผ่านเดิม
  • ไม่ง่าย: ไม่ควรใช้ข้อมูลส่วนตัวที่คาดเดาง่าย เช่น ชื่อเล่น วันเกิด หรือคำศัพท์ในพจนานุกรม เลขเรียง (123456789) หรือคำว่า “password” เพราะรหัสผ่านเหล่านี้คาดเดาได้ง่ายและติดอันดับคำที่ถูกแฮกบ่อยที่สุดทุกปี
  • ไม่บอก: ห้ามเปิดเผยรหัสผ่านให้ผู้อื่นทราบโดยเด็ดขาด แม้แต่คนใกล้ชิด เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลในอนาคต

7 ทริกสร้างรหัสผ่านขั้นเทพที่จำง่าย แต่แฮกยาก


รายการ “ชัวร์ก่อนแชร์ วัคซีนไซเบอร์” ได้ให้คำแนะนำ “7 ทริกตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย” ไว้ดังนี้

  1. รหัสดี มีเอกลักษณ์
    นำข้อมูลส่วนตัวมาดัดแปลงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เปลี่ยน O เป็น 0 หรือ i เป็น ! เป็นต้น
  2. อักษรซ่อนรหัสลับ
    ลากเส้นเป็นรูปตัวอักษรบนคีย์บอร์ด เช่น ลากเป็นรูปตัว V อาจได้รหัสเป็น 1QAZSE4
  3. สลับโหมดแป้นพิมพ์
    พิมพ์ประโยคภาษาไทยที่คุ้นเคยในขณะที่แป้นพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ
  4. กระหยิ่มใจ ใช้บทเพลง
    นำตัวอักษรแรกของเนื้อเพลงท่อนที่ชอบ หรือจำได้ง่าย มาแปลงเป็นรหัสผ่านแบบคาราโอเกะ
  5. เพ่งรหัส เสริมเรื่องราว
    สร้างชุดคำว่า “ใคร ทำอะไร ที่ไหน” แล้วนำมาย่อเป็นรหัส
  6. ตัวต้นจาก Account
    นำอักษรย่อของแพลตฟอร์ม (เช่น FB, IG) มาผสมในรหัสผ่าน
  7. พร้อมปรับตามวันเวลา
    ควรเปลี่ยนรหัสผ่านทุก 3 เดือน โดยอาจนำวันที่เปลี่ยนมาเป็นส่วนหนึ่งของรหัสใหม่

ด่านที่ 2: เกราะชั้นที่สองด้วย 2FA

การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (2-Factor Authentication – 2FA) เป็นการยกระดับความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งหลังจากป้อนรหัสผ่าน โดยระบบจะส่งรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียว (OTP) ไปยังโทรศัพท์มือถือของคุณ เพื่อให้คุณยืนยันตัวตนอีกครั้ง วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์เข้าถึงบัญชีของคุณได้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้รหัสผ่านก็ตาม หากไม่มีรหัส OTP จากมือถือของคุณ ก็จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้

ปัจจุบันแพลตฟอร์มออนไลน์ส่วนใหญ่ เช่น Google และ Facebook มีฟังก์ชันนี้ให้ผู้ใช้เปิดใช้งานได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของตนเอง

ตัวอย่างการตั้งค่าการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอนใน Google

  1. คลิกที่รูปโปรไฟล์ของคุณที่มุมขวาบน
  2. เลือก “จัดการบัญชี Google”
  3. ในเมนูด้านซ้าย เลือก “ความปลอดภัย”
  4. มองหา “การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน” แล้วคลิก
  5. กด “เริ่มต้นใช้งาน” และกรอกรหัสผ่านบัญชีของคุณ
  6. ใส่เบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันตัวตน จากนั้นกรอกรหัส OTP ที่ได้รับทาง SMS

ด่านที่ 3: ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว – กำหนดขอบเขตให้ชีวิตออนไลน์

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว (Privacy Settings) คือการกำหนดว่าใครจะสามารถเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ของเราได้บ้าง เช่น ชื่อ, อีเมล, รูปภาพ, ตำแหน่งที่อยู่ และความสนใจต่าง ๆ ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์หลายแห่งที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่านี้ได้ เช่น Facebook, Line, และ Instagram

สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าข้อมูลบางอย่างไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ผิดได้

7 สิ่งต้องห้าม ! อย่าโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเด็ดขาด

  1. บัตรประชาชนและบัตรที่ทางราชการออกให้
    เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวและบาร์โค้ดอาจถูกผู้ไม่หวังดีนำไปแอบอ้างหรือใช้ประโยชน์ได้
  2. บัตรเครดิต / เดบิต หรือบัตรนักเรียนนักศึกษาที่เชื่อมโยงกับธนาคาร
    ถึงแม้ตัวเลขจะถูกเบลอไว้ แต่ข้อมูลบางส่วนก็ยังสามารถนำไปใช้ในการหลอกลวงได้
  3. ใบแจ้งหนี้ บิลค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ, ค่าไฟ) และสลิปทางการเงิน
    ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขสมาชิก ข้อมูลบัตรเครดิต รวมถึงการกล่าวถึงทรัพย์สิน ถือเป็นข้อมูลที่ล่อแหลมและอาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสวมรอยเข้าถึงบัญชีของคุณได้
  4. สิ่งที่ทำซ้ำได้
    ตัวอย่างเช่น กุญแจบ้าน กุญแจรถ หรือแม้แต่ภาพถ่ายที่แสดงสองนิ้ว ก็อาจเสี่ยงต่อการถูกขโมยลายนิ้วมือได้
  5. ตั๋วเครื่องบิน
    ปกปิดข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, หมายเลขการจอง, จุดหมายปลายทาง, วันที่และเวลาเดินทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีนำไปเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกตั๋ว รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลบัตรเครดิต
  6. หนังสือเดินทาง (Passport)
    เป็นเอกสารสำคัญที่บรรจุข้อมูลส่วนตัวเช่นเดียวกับบัตรประชาชนที่สามารถนำไปใช้ในการปลอมแปลงตัวตนได้ 
  7. สถานะและแท็กสถานที่แบบ Real-time
    การเปิดเผยตำแหน่งที่เราอยู่หรือไม่อยู่บ้าน อาจทำให้มิจฉาชีพรู้เวลาที่เหมาะสมในการก่อเหตุ หรือทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเราได้

การป้องกันตนเองในโลกไซเบอร์อาจดูเป็นเรื่องซับซ้อน แต่เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยสุขอนามัยทางดิจิทัล การสร้าง รหัสผ่าน ที่คาดเดายาก การเปิดใช้ 2FA เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น และการบริหารจัดการ ความเป็นส่วนตัว อย่างรอบคอบ เป็นสามหลักการสำคัญที่ช่วยปกป้อง “บ้าน” ดิจิทัลของเราให้รอดพ้นจากผู้ไม่หวังดี ในโลกที่ทุกสิ่งเชื่อมโยงถึงกัน การระมัดระวังและไม่ประมาทจึงเป็นอาวุธที่ดีที่สุดที่เราทุกคนควรมีติดตัว

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความชุด “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ทาง Facebook เพจ “ชัวร์ก่อนแชร์”

หรือเพจ “นักสืบสายชัวร์ ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” 

28 สิงหาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ทีมข่าวไซเบอร์ กฤษณา กาญจนเพ็ญ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]