ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีนยังดี

กรุงเทพฯ 17 ต.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน ไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกมิติ สะท้อนนักธุรกิจจีนเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย  


นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ประธานหอการค้าไทย-จีน แถลงดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย-จีน  ไตรมาส 3 ปี 2561 โดยสำรวจ 500 ผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ ว่า ระดับความเชื่อมั่นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2561 ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกมิติ ทั้งด้านมูลค่าการค้ารวมระหว่างประเทศ มูลค่าการลงทุนรวมระหว่างประเทศ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 

ส่วนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยจะได้รับ ทั้งจากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) และจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยยังมีแนวโน้มสูงขึ้น ยกเว้นเพียงรายได้จากการส่งออกสินค้าที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวเท่ากับไตรมาส 1 ปี 2561 ขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศกลับไม่มากเท่าการสำรวจในอดีต


สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ภูเก็ตนั้น ส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวลดลงระยะสั้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่จากการแก้ไขปัญหาส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนยังเชื่อมั่น เนื่องจากรัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาและทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวและรัฐบาลจีนได้อย่างรวดเร็ว  ประกอบกับผลจากการที่ทางหอการค้าไทย-จีนร่วมมือไบ๋ตู้ (Baidu) เครื่องมือสืบค้นข้อมูลของจีนผ่านบริษัท ไทย ซี.ซี. จำกัด ก็ได้ช่วยทำความเข้าใจชาวจีนส่งผลให้สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น เชื่อว่าตลอดปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาท่องเที่ยวไทยรวมประมาณ 10 ล้านคน   

ด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่า ปรับตัวดีขึ้นทุกมิติ รายได้จากการส่งออกสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย การปรับลดลงมีสาเหตุมาจากผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่กระทบสินค้าส่งออกของไทยไปจีน ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้ากึ่งสำเร็จรูปที่จีนนำไปผลิตต่อและส่งออก การที่ประเทศไทยผลิตสินค้าส่งออกและไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีน จึงได้รับผลบ้าง บวกกับเงินบาทแข็งค่าขึ้น สินค้าส่งออกโดยเฉพาะสินค้าเกษตรได้รับผลกระทบ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์น่าจะมีนโยบายแก้ไข หากไม่การส่งออกจะถดถอย เพราะการส่งออกข้าวขณะนี้ลดลงถือว่าถดถอยพอสมควร ดังน้ัน จึงเป็นจุดพึงระวังและต้องจับตามอง 

ส่วนผลสำรวจมุมมองอนาคตในช่วง 6 เดือนถัดไป พบว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนดีขึ้นทุกมิติ รายได้จากการส่งออกสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งสรุปได้ว่าจนกระทั่งถึงสิ้นปีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนทางด้านเศรษฐกิจนั้นน่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มากเท่าการสำรวจครั้งที่ผ่านมา


ด้านผลการสุ่มสำรวจเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2561 เทียบกับไตรมาส 2 ปี 2561 พบว่า  การบริโภคของภาคเอกชนภายในประเทศซบเซา แม้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และการส่งออกไปยังต่างประเทศ มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น แต่ถูกฉุดรั้งด้วยปัญหาการบริโภค ทำให้การเติบตัวของเศรษฐกิจไทยทรงตัว โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2561 จีดีพีโตร้อยละ 4.8 แต่ลักษณะยังกระจุกบางกลุ่มยังไม่กระจายอย่างทั่วถึงทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ

สำหรับมุมมองผู้ประกอบการมองเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2561 พบว่า นักธุรกิจมีมุมมองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตดีกว่าไตรมาส 3  น่าจะมาจาก 3 ภาคทางเศรษฐกิจ คือ การลงทุนภาคเอกชน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และการส่งออกของประเทศไทย  แต่ภาคธุรกิจการเกษตร ป่าไม้ และการประมง ยังมีความวิตกกังวล ว่า กำลังซื้อลดลงและราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลงอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในวงกว้างได้ หากพิจารณาภาพรวมตลอดปี 2561 ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะโตได้มากกว่าร้อยละ 4.5-4.6. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]