กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- “เจ้าสัวธนินท์” ชวนนักธุรกิจจีนทั่วโลก ลงทุนในไทย โดยเฉพาะ EEC แนะดึงเทคโนโลยีพัฒนาเศรษฐกิจด้วยศักยภาพคนรุ่นใหม่ ชี้ค่าไฟต้องไม่แพงและควรมาจากพลังงานสะอาด ชูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของฝรั่งเศษเป็นโมเดล
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในเวทีการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก (World Chinese Entrepreneurs Convention : WCEC) ครั้งที่ 16 ที่หอการค้าไทย-จีน จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลง และมีความไม่แน่นอน ซึ่งนักธุรกิจชาวจีน นักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลสามารถใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส และจะต้องวิเคราะห์ว่า จะคว้าโอกาสนั้นได้อย่างไร
เมื่อก่อนจีนต้องต้องศึกษาวิทยาการด้านต่าง ๆ จากสหรัฐอเมริกา และต้องนำทรัพยากรจากทั่วโลก ทั้งด้านบุคคลากร เงินทุน เทคโนโลยี และวัตถุดิบเข้าไปที่จีน แต่วันนี้กล่าวได้ว่าจีน มีการพัฒนาเทคโนโลยี และพัฒนาเศรษฐกิจจนก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีปัจจัยพื้นฐานในด้านต่างๆ พร้อมที่จะพลิกโฉมการพัฒนา เราจึงมีความมั่นใจในนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ โลกยุคใหม่ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความท้าทายด้านเศรษฐกิจ คือ สงครามแข่งขันในด้านการค้า จึงต้องมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ บริการ และเทคโนโลยี รวมถึงต้องพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้และความสามารถทัดเทียมระดับนานาชาติ แข่งขันได้อย่างไม่เพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก ซึ่งในโลกอนาคตจะเป็นโลกของหุ่นยนต์และไบโอเทคโนโลยี เทคโนโลยีไม่เพียงทดแทนแรงงานเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 3-5 เท่า ส่วนแรงงานก็ไม่ต้องกลัวตกงาน เพราะจะเปลี่ยนไปสู่ภาคบริการและธุรกิจใหม่แทน
“วันนี้การสร้างธุรกิจ มีความสะดวกเพราะมีเทคโนโลยี มีอินเตอร์เน็ต ทำให้เห็นตัวเลข เห็นซัพพลายเออร์ต่างๆ อย่างไรก็ตามแม้จะทำธุรกิจใหม่ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติก และการจะลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต จะต้องมีการลงทุนในเทคโนโลยี ซึ่งการปฏิรูปอุตสาหกรรมการผลิตสามารถไปศึกษาดูงานที่จีนได้ ว่ามีการปฏิรูปอุตสาหกรรมการผลิตอย่างไร “ นายธนินท์ กล่าว
จีนเชิญ CP ไปลงทุนอุตสาหกรรมรถจักยานยนต์ ทั้งๆที่จีนเองก็มีอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่เนื่องจากขณะนั้นจีนขาดทุนทรัพย์ ขาดเทคโนโลยี แต่ขณะเดียวกันจีนมีตลาดที่ใหญ่ ตนจึงหาข้อมูลจนพบว่า มอเตอร์ไซค์ที่ทนที่สุด ขับขึ้นเขาได้ ซ่อมง่าย คือ Honda ซึ่งขณะนั้นที่ญี่ปุ่น ไม่ใช้รุ่นนี้กันแล้ว เพราะมีรุ่นที่ดีกว่า ทำให้เจรจาซื้อมาได้ในราคาที่ถูกมาก เมื่อผลิตเสร็จก็ขายดีมาก ดังนั้น เราต้องเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเสมอไป แต่ปัจจุบัน จีนมีทั้งทุน และมีเทคโนโลยี จึงเป็นโอกาสของประเทศต่างๆที่นักธุรกิจจีนจะเข้าไปลงทุน
ประเทศไทยของเรามีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) โดยให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่โครงการที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เช่น สิทธิปลอดภาษีโครงการที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์เทคโนโลยี เป็นต้น ซึ่งในยุค 4.0 ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงยังมีความสำคัญ เพราะอีคอมเมิร์ชต้องอาศัย Real Economy ในการผลิตสินค้าที่จับต้องได้ และต้องอาศัยโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งทางบก เพื่อส่งสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค การพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริงที่ใช้นวัตกรรมในการผลิตให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูง มูลค่าสูงขึ้น จึงจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ชและโลจิสติกส์ดำรงอยู่ต่อไป
การค้าของโลกในอนาคตนั้น จะต้องให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี เพราะเมื่อมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น คุณภาพของสินค้าก็จะดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เศรษฐกิจในยุค 4.0 ไม่ได้หมายถึงให้เราละทิ้งธุรกิจเก่าที่เคยมีมาก่อน แต่ให้เราใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจที่เรามีอยู่ ทำให้ธุรกิจมีความทันสมัยมากขึ้น และสามารถขยายธุรกิจออกไปให้มากขึ้น
“อุตสาหกรรมการผลิตของเราทันสมัยขึ้น 5 เท่าเพราะมีเทคโนโลยีทั้ง Big Data มีความสามารถในการแข่งขันยิ่งถ้าสินค้าที่เราผลิตมีความปลอดภัยราคาถูกก็จะเป็นจุดแข็ง แต่หากผลิตสินค้าราคาแพงไม่ทันสมัยก็อาจจะตกยุคได้ อยากฝากท่านทั้งหลายพิจารณาประเทศไทย ที่เป็นศูนย์กลางของเอเชีย ผมหวังว่านักธุรกิจจีนทั่วโลกจะมาลงทุนที่ไทย โดยเฉพาะ EEC อย่างประเทศ ญีปุ่น เกาหลี ก็มาลงทุนที่ไทยเป็นหลัก “ นายธนินท์ กล่าว
นายธนินท์ ยังกล่าวด้วยว่า ในอนาคตสิ่งที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมการผลิตก็คือไฟฟ้า ดังนั้นไฟฟ้าควรมีราคาไม่แพงและควรเป็นพลังงานสะอาด ตนเคยไปดูการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นนโยบายพลังงานสะอาดของรัฐบาล ประชาชนไม่ได้คัดค้านโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เพราะรัฐบาลมีมาตรการลดความเสี่ยงหรือคุ้มครองความเสี่ยง ซึ่งที่นั่นยังมีโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ พลังงานลมด้วย แต่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากที่สุด เป็นพลังงานสะอาดที่มีราคาถูกที่สุด ซึ่งตนคิดว่า ในอนาคตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดจะสำคัญ และพลังงานนิวเคลียร์ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ .-สำนักข่าวไทย