จีนสนใจลงทุนธุรกิจ EV ในไทย แย้มปีหน้าค่ายใหญ่ยกทัพมาเพิ่ม

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – หอการค้าไทย-จีน เผยนักธุรกิจจีนสนใจลงทุนธุรกิจ EV ในไทย แย้มปีหน้าค่ายรถไฟฟ้าใหญ่จะยกทัพมาลงทุนอีกหลายราย พร้อมเผยจีนไม่กังวลการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ คาดเงินสะพัดตลอดการประชุม 3 วันกว่า 500 ล้านบาท


นายณรงค์ศักดิ์ พุทธมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน และประธานกรรมการจัดงาน WCEC ครั้งที่ 16 กล่าวว่า เวทีนี้ถือเป็นการรวมพลังนักธุรกิจชาวจีน การประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก เป็นเวทีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของนักธุรกิจชาวจีนและนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลจากทั่วโลก ที่ใช้เป็นโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การประชุมครั้งนี้เราพยายามนำเสนอให้ชาวโลกเห็นว่า ประเทศไทยเราพร้อมรับการลงทุน โดยหอการค้าไทยจีน ให้ความสำคัญกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการประชุมครั้งนี้จัดภายใต้หัวข้อร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยภูมิปัญญานักธุรกิจจีน โดยหวังให้มีโอกาสพัฒนาจาก “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่เป็นความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และเขตอ่าวเศรษฐกิจกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า”
 
ทั้งนี้ในการประชุมนักธุรกิจจีนที่เข้าร่วม ให้ความสนใจในการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี  และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในไทย เพราะเชื่อว่าในอีก  5 ปีข้างหน้า จะมีรถปริมาณการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาป ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหลายค่าย ตั้งฐานผลิตในไทย ทั้ง BYD GWM MG และปีหน้าจะมีบริษัทรถไฟฟ้าใหญ่ๆ เข้ามาลงทุนเพิ่มอีกหลายบริษัท


พร้อมเผยนักธุรกิจจีนไม่กังวล เกี่ยวกับรัฐบาลชุดใหม่ของไทย เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถตั้งรัฐบาลที่มีความแน่นอนได้ในไม่ช้า ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลไหน หรือใครเป็นรัฐบาลก็จะส่งเริมและสามารถทำให้เกิดการพัฒนาประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้

“มั่นใจว่าไทยมีความมั่นคงแข็งแรง ส่วนประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ก็ต้องขึ้นเมื่อถึงเวลา แต่ก็ไม่ควรให้สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อยากเชิญชาวโลกมาลงทุนในประเทศไทย และขอให้คนไทยอย่าไปคิดว่า คนจีนที่มาลงทุนในไทยเป็นจีนเทา” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นายณรงค์ศักดิ์ ยังบอกด้วยว่า ตลอดการจัดงานการประชุมนักธุรกิจชาวจีนโลก หนือ WCEC 3 วัน (24-26) จะมีเงินสะพัดในกรุงเทพฯ ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท พร้อมเผยอยากให้ตัวเลขการลงทุนของนักธุรกิจชาวจีนทั่วโลกในไทยกว่าแสนล้านบาท-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”