รวบคาสนามบิน 1 ใน 5 แก๊งอุ้มนักธุรกิจจีนรีดทรัพย์ ย่านรัชดาฯ

กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – ตำรวจรวบคาสนามบิน 1 ใน 5 แก๊งบุกอุ้มนักธุรกิจจีนรีดทรัพย์ 12 ล้านบาท ย่านรัชดาฯ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ คุมตัวสอบขยายผล


จากกรณีชายฉกรรจ์ 5 คน ถือปืนบุกอุ้มหนุ่มจีนรีดเงิน ล่าสุดมีรายงานว่าชุดสืบสวนด่าน ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ ตรวจพบนายหลิว บู กำลังจะเดินทางออกจากไทย ด้วยสายการบินสกายอังกอร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน ZA679 จากสุวรรณภูมิ ไปพนมเปญ จึงสั่งการให้ทำการควบคุมตัว เพื่อประสานงานกับ สน.สุทธิสาร มารับตัวไปดำเนินการคดี

พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการ ตม.2 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเร่งติดตามตัวคนร้าย ด้วยการลงข้อมูลในระบบ APPS ซึ่งเป็นระบบแจ้งเตือนการเดินทางของผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัย ของ สตม. กระทั่งพบว่า นายหลิว บู กำลังเช็กอิน เพื่อเตรียมเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว


เบื้องต้นตำรวจนำตัวมาซักถามและตรวจค้นสัมภาระติดตัว พบสายรัดข้อมือพลาสติกจำนวนมาก เงินสด หนังสือเดินทางสัญชาติ Cedeao (สัญชาติแอฟริกาตะวันตก)

สำหรับจุดเกิดเหตุในย่านรัชดาภิเษกนี้ อดีตเป็นที่ตั้งของธุรกิจคนไทย แต่ขาดสภาพคล่อง จึงมีนักธุรกิจชาวจีนเข้ามาเช่าอาคารทั้งหมด ทีมข่าวลงพื้นที่ไปสอบถามคนที่อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ เล่าว่า หญิงสาวคนนี้เล่าว่าเธอทำงานในซอยรัชดาฯ 24 มากว่า 2 ปีแล้ว ไม่เคยเห็นบริษัทนี้เปิดให้บริการ มีเพียงชายชาวจีน 2 คน ที่เป็นเจ้าของบริษัท เดินทางเข้า-ออก แต่ไม่บ่อยครั้ง โดยทุกครั้งที่มาจะขับรถเก๋งสีขาวมาจอด และมีการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกเชื่อว่าเป็นชาวจีน

จากนั้นชายชาวจีนทั้งสองจะพากันเข้าไปยังด้านในของบริษัท ซึ่งเช่าต่อมาอีกทอดหนึ่ง และเก็บตัวอยู่ด้านในเป็นเวลานานๆ เวลาสั่งอาหารจะให้พนักงานมาส่งที่หน้าบริษัท พฤติกรรมของชายชาวจีนทั้งสองคนจะไม่สุงสิงกับใครที่อาศัยอยู่ในย่านนี้


ส่วนวันเกิดเหตุเธอยืนยันว่าไม่พบเห็นชายฉกรรจ์หรือรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้ามา ภายในซอยเงียบเหมือนไม่เคยเกิดเหตุการณ์มาก่อน คดีชาวต่างชาติอุ้มชาวต่างชาติรีดทรัพย์ เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และประเทศไทย หลายครั้ง ส่วนมากเป็นการกระทำของกลุ่มเพื่อนชาติเดียวกัน เนื่องจากรู้เห็นในเรื่องทรัพย์สินและธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งบางส่วนอาจเป็นธุรกิจสีเทาจึงกล้าที่จะลงมือก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน