กทม. 19 ก.ย. – ถึงเวลาที่ต้องจับตามองการเมืองเป็นพิเศษ เมื่อ คสช.เริ่มคลายล็อกให้พรรคการเมืองแล้ว เป็นสัญญาณว่าช่วงเวลาของการเลือกตั้งเดินเข้ามาใกล้ทุกขณะ แต่หลายคนยังสงสัยว่า หลังการเลือกตั้งในปีหน้านี้ นายกรัฐมนตรีจะมีที่มาอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงานของทีมข่าวการเมือง
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศท่าทีในเส้นทางการเมืองหลังกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
ทั้งนี้ ที่มาของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านๆ มา ในเรื่องช่วงเวลา ซึ่งช่วงเวลาปกติกำหนดไว้ว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะมีขึ้น กำหนดให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองนั้นๆ มีมติว่าจะเสนอให้ ส.ส. พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกิน 3 รายชื่อ โดยแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง และให้ กกต.ประกาศรายชื่อให้ประชาชนทราบ เมื่อเลือกตั้งจนกระทั่งได้จำนวน ส.ส.ครบแล้ว ส.ส.ทั้งหมดก็จะให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่สำหรับ 5 ปีแรกนับตั้งแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรก การให้ความเห็นชอบจะต้องดำเนินการในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา 750 คน ประกอบด้วย ส.ส.500 คน และ ส.ว. 250 คน โดยมติเห็นชอบจะต้องมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด คือตั้งแต่ 376 เสียงขึ้นไป
แต่ในกรณีที่ไม่สามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ให้สมาชิกทั้งสองสภารวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง จากนั้นให้ประธานรัฐสภาจัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เพื่อให้ยกเว้นได้ แล้วจึงกลับมาเลือกนายกรัฐมนตรีแบบเปิดกว้าง นั่นหมายถึงจะเลือกบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง หรือจะเลือกบุคคลภายนอกก็ย่อมได้ โดยมติที่เห็นชอบต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด
ย้ำว่าการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกันของ ส.ส.และ ส.ว. จะดำเนินการแค่ในช่วง 5 ปีแรกหลังการเลือกตั้งเท่านั้น หากรัฐสภาชุดแรกนี้อยู่ครบวาระ 4 ปี เท่ากับว่าต้องใช้วิธีการนี้ 2 สมัย หลังจากนั้นก็จะกลับมาใช้รูปแบบเดิม ที่ให้ ส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อและเลือกนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม. – สำนักข่าวไทย