เชียงราย 9 ก.ค.-บุคคลสำคัญที่เข้าไปดำน้ำช่วยพา 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง เป็นทีมบูรณาการนานาชาติ ทั้งไทยและต่างชาติ ที่มาจากต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นนักดำน้ำที่เป็นสมาชิกของสภากู้ภัยในถ้ำแห่งสหราชอาณาจักร ทุกคนมีประสบการณ์ดำน้ำลึกในถ้ำที่น่าทึ่ง ไปติดตามบางเรื่องราวจากการรวมดาวทีมกู้ภัยระดับโลก ที่มารวมกันปฏิบัติภารกิจในถ้ำหลวง
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เปิดเผยถึงภารกิจดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่าเป็นการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย รวมทั้งความช่วยเหลือสำคัญจากทีมดำน้ำที่ใช้คำว่าหน่วยปฏิบัติการบูรณาการนานาชาติ ในวันแรกที่เข้าไปช่วย 4 หมูป่า และวันที่ 2 ก็ยังคงเป็นทีมเดิม นักดำน้ำ 13 คน ดำลงไป 10 คน อีก 3 คน เป็นเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค และมีหน่วยซีลอีก 5 คน ยอดรวมนักดำน้ำและผู้เชี่ยวชาญ 90 คน ทั้งไทยและต่างชาติ ร่วมกันปฏิบัติภารกิจกู้ชีพในถ้ำที่ยากที่สุดในโลกครั้งนี้
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า แอนดี้ เอวิส อดีตนายกสมาคมดำน้ำแห่งอังกฤษ เปิดเผยว่า ทีมนักประดาน้ำจากต่างประเทศ 13 คน ที่มาช่วยทีมหมูป่าส่วนใหญ่เป็นนักดำน้ำที่เป็นสมาชิกของสภากู้ภัยในถ้ำอังกฤษ The British Cave Rescue Council หรือ BCRC ซึ่งมีประสบการณ์ช่วยเหลือผู้ติดถ้ำจากทั่วโลก
คริสโตเฟอร์ จีเวล ชาวอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำลึก เคยร่วมสำรวจถ้ำ “อูอัตลา” (Huautla) ในเม็กซิโก ถ้ำที่ลึกที่สุดของโลกฝั่งตะวันตก ค้างแรมอยู่ในถ้ำเกือบ 10 วัน เนื่องจากความลึกและความยาวของถ้ำ
เจสัน เมลินสัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการดำน้ำแบบใช้อุปกรณ์แบบ Rebreathers ซึ่งเป็นการดำน้ำแบบนำอากาศที่หายใจไปแล้ว วนกลับมาใช้ใหม่ อุปกรณ์นี้ทำให้ดำน้ำได้นานมากขึ้น
ไมเคิล เคลย์ตัน จากสภากู้ภัยในถ้ำอังกฤษ ยังเป็นประธานขององค์การกู้ภัยในถ้ำที่มิดแลนด์ และเป็นสมาชิกกลุ่มกู้ภัยในถ้ำกลอสเตอร์เชอร์ของอังกฤษ
ก่อนหน้านี้มีนักดำน้ำอังกฤษ 2 คนสำคัญ ซึ่งเป็นผู้ดำน้ำไปจนพบ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ติดอยู่ที่เนินนมสาว คือ ริชาร์ด วิลเลียม แสตนตัน และจอห์น โวลแลนเทน จากสภากู้ภัยในถ้ำของอังกฤษ สองคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของทีมสำรวจถ้ำในปี 2010 ที่ต้องดำน้ำเกือบ 9 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 50 ชั่วโมง ถือเป็นสถิติการดำน้ำในถ้ำด้วยอุปกรณ์เสริมใบพัดระยะทางยาวที่สุดในโลก
ในคลิปวิดีโอ Into the Darkness ที่เผยแพร่ในยูทูบ ยังมีเรื่องราวของ 2 คนนี้ และมีข้อมูลว่า ริชาร์ด เป็นผู้พัฒนาระบบและผลิตระบบ Close Circuit Rebreather หรือ CCR ซึ่งทำให้ดำน้ำได้นานขึ้น ลึกขึ้น ปรับอุปกรณ์ CCR ขนาดเล็กเกี่ยวไว้ข้างตัว ประหยัดเนื้อที่ และพัฒนาจนใช้งานและใช้ดำน้ำ สำรวจทำลายสถิติในภารกิจทั่วโลก
ท้ายสุด คุณหมอนักดำน้ำ ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์จากออสเตรเลีย มีข้อมูลว่าเขาเป็นผู้ตรวจสุขภาพและประเมินสภาพจิตใจของทีมหมูป่า ก่อนเป็นผู้อนุมัติขั้นสุดท้ายว่า พร้อมต่อการออกมากับทีมช่วยชีวิตหรือไม่ ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับนักดำน้ำของออสเตรเลีย ระบุหมอริชาร์ด แฮริส เป็นนักถ่ายภาพใต้น้ำด้วย เขาเคยมีส่วนร่วมในการดำน้ำสำรวจถ้ำในหลายประเทศ รวมทั้งมีความสนใจเรื่องความปลอดภัย การสอบสวนอุบัติเหตุในการดำน้ำ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับถ้ำและการดำน้ำเชิงเทคนิค มีประสบการณ์การดำน้ำมากกว่า 30 ปี นี่เป็นส่วนหนึ่งจากทีมปฏิบัติการบูรณาการนานาชาติเพื่อช่วยชีวิต ทีมหมูป่าที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย
