อุทยานฯ แจงดราม่าเข้า “ถ้ำหลวง” คนละ 950 บาท ไม่แพง

เชียงราย 19 ธ.ค. – ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย แถลงชี้แจงเก็บค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำหรับคนไทย 950 บาท และต่างชาติคนละ 1,500 บาท ถือว่าไม่แพง เพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่ดูแลหลายคน


นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย แถลงถึงกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้จนถึงโถงที่ 2 มีความลึก 653 เมตร และโถงที่ 3 ลึก 715 เมตร โดยกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับคนไทย 950 บาท และชาวต่างชาติ 1,500 บาท จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

นายชุติเดช กล่าวว่า นักท่องเที่ยวยังคงเข้าไปถึงโถงที่ 1 ลึกประมาณ 200 เมตร สามารถเข้าชมฟรี ส่วนกรณีโถงที่ 2 และ 3 ถือว่ามีความลึกและต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องกู้ภัย และผู้นำเที่ยวท้องถิ่น รวม 5 คน เข้าไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่กำหนดจำนวนไม่ให้เกิน 10 คน และวันละไม่เกิน 2 รอบ เพื่อความปลอดภัย เพราะภายในมีความลึก มีความอันตราย


โดยเงิน 300 บาท นำเข้าเป็นกองทุนสวัสดิการถ้ำหลวง สำหรับซ่อมแซมอุปกรณ์ในถ้ำและนอกถ้ำ ในส่วนที่ไม่สามารถเบิกจากทางราชการได้ ค่าอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญ ค่าอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ค่าประกันชีวิต ที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ด้วย บางช่วงต้องปีนสูง 4-5 เมตรเป็นอย่างต่ำ มีการใช้เชือก บางจุดต้องลอดช่องแคบๆ ผู้นำเที่ยวจะมีการอธิบายลักษณะทางธรณีของถ้ำไปตลอดทาง รวมทั้งมีผู้ที่สามารถอธิบายเรื่องราวประกอบสถานที่ในเหตุการณ์กู้ภัยช่วย 13 หมูป่าด้วย ดังนั้น ราคาคนละ 950 บาท จึงถือว่าไม่แพงเลย เพราะต้องนำมาใช้จ่ายกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คน รวมเป็นเงิน 500 บาท ส่วนที่เหลือ 150 บาท จะนำเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ทั้งนี้ หลังจากประกาศให้เข้าไปเที่ยวถึงโถงที่ 2 และ 3 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติติดต่อขอเข้าไปในถ้ำแล้ว โดยไม่กังวลเรื่องราคา เพราะถือว่าถูกมากสำหรับเขา และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิจารณา เพราะต้องนัดผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญเรื่องภาษา เพื่อกำหนดวันที่ว่างระหว่างผู้นำเที่ยวและนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ยังมีคนไทยที่ติดต่อขอเข้าไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้จัดลำดับต่อไป จึงขอแจ้งว่าจะเข้าไปในถ้ำควรไปเป็นกลุ่มเดียวกัน กลุ่มละ 8-10 คน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูแลได้สะดวก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”