กรุงเทพฯ 27 ก.ย.-ธนาคารพัฒนาเอเชียประเมินเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ปรับประมาณการณ์เติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2559 ใหม่ จากเดิมคาดขยายตัวร้อยละ 3.0 เป็นร้อยละ 3.2 ส่วนปีหน้าคาดว่า จะเติบโตได้ร้อยละ 3.5
นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี เปิดเผยว่า เอดีบีได้ปรับประมาณการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2559 ขึ้นเป็นขยายตัวร้อยละ 3.2 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 3 หลังจากจีดีพีครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดีขึ้นถึงร้อยละ 3.4 จากการลงทุนของภาครัฐที่สูงขึ้นร้อยละ 11.8 ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ ขณะที่การบริโภคภาครัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 การลงทุนของเอกชนกลับมาขยายตัวร้อยละ 1.1 เนื่องจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.1 สูงสุดในรอบ 3 ปี มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคและรายได้เกษตรกรเริ่มดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรบางรายการปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามค่าจ้างแรงงานโดยรวมยังไม่ปรับขึ้น ขณะที่การจ้างงานลดลงร้อยละ 0.9 ในช่วงไตมาส 2 ปี 2559 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลดีถึงครึ่งปีหลังของปี 2559 และทำให้ทั้งปีเศรษฐกิจขยายตัวได้ตามคาดการณ์
ทั้งนี้ เอดีบีมองว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่เริ่มฟื้นตัว เนื่องจากภาคการค้าขยับตัวดีขึ้น และจะส่งผลให้มีการนำเข้าจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2560 จะเกินดุลน้อยลงจากปี 2559 การบริโภคภาคเอกชนจะขยับตัวดีขึ้น จากการลงทุนของภาครัฐที่จะเริ่มลงทุนจริงจังในช่วงต้นปี 2560 นอกจากนี้พบความมั่นใจของผู้บริโภคและภาคเอกชนขยับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะผลจากการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ จึงคาดการณ์จีดีพีไทย ปี 2560 จะขยายตัวร้อยละ 3.5
ส่วนความเสี่ยงเศษฐกิจไทยจากปัจจัยภายในประเทศ คือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่อาจล่าช้า ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปและความแปรปรวนของสภาพอากาศที่จะส่งผลต่อรายได้ภาคเกษตร ขณะที่ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก คือ การฟื้นตัวของประเทศขนาดใหญ่ที่ยังเป็นการฟื้นตัวแบบเปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่อาจส่งผลต่อนโนบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้น การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดและการเจรจาออกจากเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษ
สำหรับการดำเนินนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในประเทศ เอดีบีมองว่าจากนี้จนถึงสิ้นปี 2560 ยังไม่มีปัจจัยใดที่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ยังต้องจับตาเฟดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจนส่งผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายหรือไม่-สำนักข่าวไทย