กรุงเทพฯ 26 พ.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยสินเชื่อสุทธิเดือนเมษายน 61 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาพรวมสินเชื่อ เงินฝาก และสภาพคล่อง ของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง สิ้นเดือนเมษายน 2561 ว่า สินเชื่อสุทธิเดือนเมษายน 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 67,800 ล้านบาท เป็น 11.14 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.61 MoM ทำให้อัตราเพิ่มเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนทยอยไต่ระดับขึ้นเป็นร้อยละ 4.81 YoY และร้อยละ 0.68 YTD ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดไว้ว่าแรงส่งสินเชื่อจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อเดือนนี้ค่อนข้างกระจายตัวแทบทุกธนาคาร ส่วนใหญ่เพิ่มจากสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
ส่วนเงินฝากเดือนเมษายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 121,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.99 MoM เป็น 12.36 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนและสิ้นปีก่อนร้อยละ 6.28 และร้อยละ 2.17 ตามลำดับ โดยหลักมาจากธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากเป็นธุรกรรมในบัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (CASA) ตามปกติ และบางส่วนมาจากการออกเงินฝากพิเศษเพื่อระดมทุนระยะกลาง (ไม่ถึง 12 เดือน) ขณะที่สภาพคล่องของธนาคารผ่อนคลายลง สะท้อนจากสัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากที่รวมตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ผ่อนคลายลงมาที่ระดับร้อยละ 85.51 จากระดับร้อยละ 85.77 ในเดือนก่อนหน้า และสอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.45 จากร้อยละ 22.25 ในเดือนก่อนหน้า
สำหรับแนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 2/2561 มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากเครื่องชี้เศรษฐกิจหลักในภาคการส่งออกที่ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งและนำไปสู่การปรับเพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อการคาดการณ์จีดีพีปีนี้ ประกอบกับการประกาศ พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะมีส่วนหนุนความต้องการของสินเชื่อภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่วนสินเชื่อรายย่อยฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นปัจจัยด้านผลของฐานที่ต่ำปีก่อนคลี่คลายลง .-สำนักข่าวไทย