กอปศ.ย้ำความจำเป็นงบ 2.5หมื่นล้านเข้าพ.ร.บ.กองทุน

สภาการศึกษา 27 ก.พ.- กอปศ. เดินหน้าศึกษาแผนจัดการกองทุน ย้ำงบ2.5 หมื่นล้านบาทจำเป็นเพื่อความเสถียรภาพ คาดปีนี้ได้งบดังกล่าว แต่ต่อไปต้องนำเสนอแผนรายปี ชี้อาจไม่ได้ หากรัฐไม่ให้ความสำคัญ


ศ.กิตติคุณ นพ.จรัส  สุวรรณเวลา  ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคด้านการศึกษา พ.ศ….ว่าขณะนี้สภานิติบัญญัติเเห่งชาติ(สนช.)ได้รับร่างพ.ร.บ.กองทุนฯ เข้าพิจารณาในวาระที่1เเล้ว ขั้นตอนต่อไปคณะกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะพิจารณาในวาระที่2และ3ต่อไป 


ส่วนคณะกรรมาธิการฯจะพิจารณาในเรื่องที่ กอปศ.กำหนดในร่าง พ.ร.บ.ให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเป็นรายปี ในวาระแรกเริ่มเป็นเวลา 5 ปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่เกี่ยวกับการศึกษาหรือไม่นั้น  ก็ต้องติดตามต่อไปว่าจะออกมาในรูปแบบใด โดยก่อนหน้านี้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในหลักการจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเเล้ว  แต่ในขณะเดียวกันสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง มีข้อสังเกตและขอให้ปรับแก้งบฯ ร้อยละ5 โดยให้เป็นการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสมกับรายจ่ายของประเทศแทนนั้น ซึ่ง กอปศ.ยืนยันว่าจำเป็นต้องระบุงบร้อยละ 5 ของงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่จากกระทรวงศึกษาฯ เท่านั้น  แต่หมายรวมถึงงบประมาณทุกอย่าง โดยหวังให้งบฯ ก้อนนี้ เป็นส่วนที่เข้ามาบริหารจัดการดูแลผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทางการศึกษา เพื่อความเสถียรภาพของกองทุน


สำหรับสิ่งที่ กอปศ.ต้องทำต่อ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของกอปศ. คือศึกษารายละเอียดแผนจัดการกองทุน เพื่อให้รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของเงินช่วยเหลือเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา  และให้ใช้งบประมาณ ร้อยละ 5 ของงบการศึกษาทั้งหมดหรือราว 25,000 ล้านบาท  เชื่อว่าปีนี้จะได้เบิกงบดังกล่าว ส่วนปีต่อไปต้องทำแผนเป็นรายปี ซึ่งอาจเกิดความไม่แน่นอน หากรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญก็จะไม่จัดงบส่วนนี้ให้ก็เป็นได้ เช่นเดียวกับงบส่งเสริมสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ที่ได้ แค่ปีเดียวเท่านั้น เป็นต้น

ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) กล่าวว่าประเด็นในเรื่องของแหล่งที่มาเงินทุนที่จะเข้าสู่กองทุนฯ จากเดิมในร่างกฎหมายที่กอปศ.จัดทำเสนอให้จัดสรรร้อยละ 5 จากงบด้านการศึกษา แต่ร่างที่ผ่าน สนช.วาระ1ให้จัดสรรทุนประเดิม1,000 ล้านบาทเข้ากองทุนและให้เสนอแผนงานที่ชัดเจนเสนอต่อคณะกรรมการกองทุน และคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติแล้ว สำนักงบประมาณจะจัดสรรงบฯให้อย่างเพียงพอ แต่ในฝ่ายที่ยกร่าง พ.ร.บ.นี้มีความกังวลว่าหากเวลาเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คนอาจไม่เข้าใจและไม่สามารถจัดได้ตามความจำเป็น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเหล่านี้อาจจะมีการแก้ไขปรับปรุงร่างกฎหมายอีกครั้งในชั้นกรรมาธิการได้ ตนจะเป็นผู้แทนกอปศ.เข้าชี้แจงเหตุผลที่เสนอบรรจุงบร้อยละ 5ไว้ในกฎหมายต่อกรรมาธิการในวันที่ 28 ก.พ.นี้  

นายประสาร กล่าวอีกว่า ที่ต้องการเสนอให้มีเงินทุนเข้ากองทุนตามที่กอปศ.เสนอบรรุจไว้เดิม เนื่องจากมองว่าหากมีการจัดงบประมาณด้านการศึกษาไว้เท่าไหร่ ก็อยากจัดงบประมาณมาใช้ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและพัฒนาครูไว้ร้อยละ 5 แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณมีความกังวลว่าจะเป็นการทำเป็นตัวอย่างแล้วหน่วยงานอื่นๆจะทำในลักษณะเดียวกัน แต่ในการเสนอบรรจุร้อยละ 5ของกอปศ.มีการคำนึงถึงประเด็นนี้เช่นกัน จึงอ้างอิงร้อยละ 5ของงบด้านการศึกษา ไม่ใช่งบประมาณทั่วไป และมีการวางกรอบเวลาช่วง 5 ปีในการสร้างระบบและสร้างตัวอย่าง หลังจากนั้นก็ใช้อ้างอิงจากผลงาน โดยจะมีการชี้แจงในชั้นกรรมาธิการต่อไป 

โดยในร่าง พ.ร.บ.ได้มีการกำหนดแหล่งทุนอื่นไว้ด้วย เช่น เงินบริจาคให้ได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี หรือถ้าจำเป็นก็ขอรัฐบาลขอรายได้ส่วนหนึ่งจากสลากกินแบ่งรัฐบาล  ส่วนเงินประเดิม 1,000 ล้านบาท คงไว้เพื่อวัตถุประสงค์รักษาความมั่นคงของสำนักงานกองทุน เพราะเมื่อจัดตั้งแล้วจำเป็นที่จะต้องรับพนักงานและต้องมีเงินเดือนและค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ  อย่างไรก็ตาม การคงอัตราร้อยละ 5 ไว้ในร่าง พ.ร.บ.เช่นเดิม จะทำให้มี ความมั่นใจมากขึ้นว่ามีทรัพยากรในระดับพียงพอที่จะให้กองทุนฯ สามารถดำเนินภารกิจได้ตามเป้าหมาย

     

“ตามบทบัญญัติในร่างพ.ร.บ.ที่ผ่านวาระแรกไม่ได้มีอะไรที่ชี้ไปในทางที่ว่า ปฏิเสธไม่ให้งบประมาณ เพียงบอกว่าไม่อยากให้ใส่ตัวเลข แต่ให้ทำแผนและถ้าแผน ครม.เห็นชอบด้วย สำนักงบก็จัดให้เพียงพอ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ขึ้นกับว่าการจัดทำแผนต้องเป็นที่น่าเชื่อถือแค่ไหน มีตัวเลขยืนยันเพียงใด และ ครม.มีความมุ่งมั่นแค่ไหน ส่วนเรื่องการปรับขนาด แน่นอนว่าโจทย์เรื่องความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร ซึ่งจากงานวิจัยพบว่ามีเด็กและเยาวชนที่กองทุนจะเข้าไปช่วยเหลือประมาณ 4.3 ล้านคนและครูอีกจำนวนหนึ่งและมีหลักการว่าจะเข้าไปสนับสนุนในรูปแบบใด อัตราอุดหนุนคนละเท่าไหร่ หากสมมติฐานว่าเงินกองทุนได้น้อยก็ต้องไปปรับกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ จำนวนคนที่ได้รับการช่วยเหลืออาจจะลดลง หรือจำนวนเงินต่อหัวที่ได้รับการช่วยเหลือลดลง ซึ่งวิธีการบริหารจัดการอาจจะต้องปรับเปลี่ยน”นายประสาร กล่าว

สำหรับร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. …เป็น 1ใน 4 พระราชบัญญัติ ที่ กอปศ.ทำงานอยู่ โดยในหลักการกำหนดให้รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนทุนประเดิม 1,000 ล้านบาท และกำหนดให้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเป็นรายปี ในวาระแรกเริ่มเป็นเวลา 5 ปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของเงินงบประมาณที่เกี่ยวกับการศึกษาของปีงบประมาณก่อนหรือ ประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งกฎหมายนี้ มีความหวังว่า จะช่วยให้เด็กนักเรียน โดยเฉพาะกลุ่มยากจนในประเทศประมาณ 3 ล้านคน ได้เข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม และเป็นหนทางหนึ่งในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย