fbpx

กองทัพเรือจัดงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ

หอประชุมกองทัพเรือ 15 ก.ย.- กองทัพเรือเตรียมจัดงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งอาเซียน และงานนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้าครั้งที่ 4 เพื่อพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.


พล.ร.อ.พลเดช เจริญพูล รองผู้บัญชาการทหารเรือ แถลงความพร้อมงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งอาเซียนและงานนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้าครั้งที่ 4 (The 4th Ship Technology for the Next Decade : Ship Tech IV) โดยกรมอู่ทหารเรือจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พัทยาจังหวัดชลบุรี เพื่อแสดงถึงเทคโนโลยีเรือในอนาคต อาวุธยุทโธปกรณ์ ระบบรักษาความปลอดภัยของกองทัพเรือไทย ที่ก้าวอยู่ในแถวหน้าของกองทัพเรือในภูมิภาค โดยมีมิตรประเทศตอบรับเข้าร่วมงานแล้ว 58 ประเทศ 

พล.ร.อ.พลเดช กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกกำลังจับตาเศรษฐกิจในอาเซียนเพราะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีอำนาจทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งซึ่งประเทศไทย ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่มั่นคงในทุก ๆ ด้าน เราเป็นจุดเชื่อมต่อของทุกภูมิภาคว่ายังเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงเทคโนโลยีด้วย ดังนั้นการจัดงานมหกรรมทางเรือนานาชาติครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานได้รู้จักประเทศไทยและแสนยานุภาพเทคโนโลยีทางเรือของไทยมากขึ้น  ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก และคุ้มครองการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตในน่านน้ำไทย 


ขณะที่พล.ร.ต.สมารมภ์ ชั้นสุวรรณ เจ้ากรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานงานนิทรรศการเทคโนโลยีเรือในทศวรรษหน้าครั้งที่ 4 กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้จะรวบรวมเทคโนโลยีทางเรือที่ทันสมัยทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่าทุกครั้ง เพราะมีระบบอำนวยการรบที่มีความทันสมัย พร้อมมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงความสามารถในการป้องกันประเทศของกองทัพเรือไทยได้ก้าวหน้าไปอีกระดับ และยังเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้เทคโนโลยีและแนวคิดในด้านการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และการจับคู่เจรจา ความร่วมมือทางการค้าและการร่วมลงทุน นอกจากนี้ยังเตรียมจัดกิจกรรมการปาฐกถาพิเศษ ที่เชิญวิทยากรชั้นนำระดับประเทศเข้าร่วมการเสวนาด้านการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 อย่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย